xs
xsm
sm
md
lg

เอ๊ะยังไง!? รองผู้ว่าฯ เมืองลุงสั่งเบรกยุทธการทวงคืนฝืนป่าต้นน้ำไร้เหตุผล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
พัทลุง - รองผู้ว่าฯ พัทลุง สั่งเบรกยุทธการโค่นทำลายผลอาสินในการทวงคืนฝืนป่าต้นน้ำพื้นที่ อ.กงหรา และ อ.ป่าพะยอม เขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า โดยไร้เหตุผล ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวคดีความอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และบางแห่งคดีถึงที่สุดแล้ว

วันนี้ (16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เจ้าหน้าที่ทหารชุด คสช. กองพันทหารช่างที่ 402 ค่ายอภัยบริรักษ์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กงหรา สนธิกำลังทวงคืนฝืนป่าในวันนี้ ในพื้นที่ อ.กงหรา และพื้นที่ อ.ป่าพะยอม ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า ที่มีการบุกรุกแผ้วถางจากกลุ่มนายทุนนับร้อยไร่ เพื่อทำการปลูกยางพารา และทำสวนปาล์มน้ำมัน

หลังจากที่ นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ที่รับผิดชอบงานการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งให้ยุติการตัดโค่นทำลายผลอาสินโดยไม่มีเหตุผล ทั้งนี้ ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการทวงคืนในวันนี้ และตลอดปลายเดือนนี้ ได้มีการแจ้งความบุกป่าอุทยานฯ และดำเนินการจับกุมมาตั้งแต่ปี 2554 และศาลได้มีการดำเนินคดีถึงที่สุดแล้ว
 

 
แต่ทาง นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ยุติทั้งหมดโดยไม่มีเหตุผล ทำให้งานของเจ้าหน้าที่อุทยานเขาปู่เขาย่า ต้องหยุดชะงักลง และมีแรงต้านจากกลุ่มนายทุนที่บุกรุก พร้อมเข้าไปดำเนินการต่อในแปลงที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งยังคงสร้างปัญหาในการทวงคืนฝืนป่าต้นน้ำให้กลับมาเป็นสมบัติของชาติในพื้นที่ จ.พัทลุง

โดยแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รายหนึ่ง กล่าวว่า ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ซึ่งได้กำหนดว่า หากมีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ โดยเป็นเหตุให้มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ หรือมีสิ่งอื่นในอุทยานแห่งชาติ ที่ผิดไปจากสภาพเดิมแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้มีอำนาจในการสั่งให้ทำลาย หรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งอื่นใดในอุทยานแห่งชาติที่ผิดไปจากสภาพเดิม หรือทำให้สิ่งนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม จึงเป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ อันเป็นการดำเนินการของฝ่ายปกครองที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดไม่ปฏิบัติตาม หรือเพื่อป้องกัน หรือบรรเทาความเสียหายแก่อุทยานแห่งชาติ พนักงานเจ้าหน้าที่จะกระทำการดังกล่าวเสียเองก็ได้
 

 
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ฉบับที่ 66/2557 เรื่องการเพิ่มหน่วยงานปราบปราม และหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย ขณะการปฏิบัติอื่นๆ ให้เป็นไปตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 64/2557 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2557 เรื่องการปราบปราม และหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้

ทั้งนี้ การดำเนินการปราบปรามจะต้องไม่กระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ รายได้ต่ำ หรือผู้ที่ไร้ที่ดินทำกินที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ก่อนคำสั่งนี้จะประกาศใช้ การดูแลจะต้องไม่ให้มีการบุกรุกป่าไม้เพิ่มเติม ส่วนคดีความที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็ให้ดำเนินต่อไป

ซึ่งพื้นที่ป่าต้นน้ำที่จะทำการทวงคืนในพื้นที่ อ.กงหรา และ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เป็นพื้นที่คดีความที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม และคดีถึงที่สุดแล้ว หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามก็เท่ากับว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ซึ่งสั่งห้ามไม่ให้มีการทวงคืนฝืนป่า ก็เท่ากับปล่อยปละละเลย และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ฉบับที่ 66/2557
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น