พัทลุง - ผู้ว่าฯ พัทลุง เผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องรองผู้ว่าฯ สั่งเบรกยุทธการทวงคืนฝืนป่าต้นน้ำ ในพื้นที่ อ.กงหรา และ อ.ป่าพะยอม เขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า โดยไร้เหตุผล
วันนี้ (16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่ นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง สั่งเบรกยุทธการโค่นทำลายผลอาสิน ในการทวงคืนฝืนป่าต้นน้ำพื้นที่ อ.กงหรา และ อ.ป่าพะยอม เขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า โดยไร้เหตุผล ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวคดีความอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และบางแห่งคดีถึงที่สุดแล้วนั้น
โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เจ้าหน้าที่ทหารชุด คสช. กองพันทหารช่างที่ 402 ค่ายอภัยบริรักษ์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กงหรา สนธิกำลังทวงคืนฝืนป่า เพื่อนำกลับมาเป็นสมบัติของชาติ และทำการฟื้นฟูเพื่อเป็นป่าต้นน้ำต่อไป
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อ และเดินทางเพื่อขอสัมภาษณ์กับรองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง แต่ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด โดยเลขาฯ หน้าห้องรองผู้ว่าฯ ระบุเพียงว่า นายติดประชุม ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ และในเวลาเดียวกันได้สอบถามไปยัง นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เกี่ยวกับการสั่งระงับทวงคืนฝืนป่าต้นน้ำเป็นสมบัติของชาติ ทางผู้ว่าฯ พัทลุง กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานต่อเรื่องดังกล่าว
ขณะที่แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า รายหนึ่งกล่าวว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ พยายามที่จะเอาพื้นที่ป่าต้นน้ำกลับคืนจากกลุ่มนายทุน ที่บุกรุกแผ้วถางเป็นของตัวเอง เพื่อกลับมาเป็นสมบัติของชาติ และของส่วนรวม แต่เมื่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มีแนวคิดแบบนี้ก็ทำให้ท้อต่อการปฏิบัติหน้าที่การดูแลฝืนป่า เพราะทุกวันนี้มีความขัดแย้งกับชาวบ้าน พอจะใช้กฎหมายก็ถูกระงับ และจะทำให้ปัญหาการรุกที่ป่าอนุรักษ์ไม่มีวันจบสิ้น เพราะความคิดของผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจปัญหา และไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
