ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าอาวาสวัดในวัง พระอารามหลวง อ.นาทวี จ.สงขลา แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับอดีตพระสุนทรราชมานิตเถระ เจ้าคณะ อ.นาทวี จ.สงขลา ในข้อหาทำการลักทรัพย์สินของวัดหลายรายการ
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่วัดในวัง พระครูโชตยาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดในวัง พระอารามหลวง ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับ พระชยันตร์ อภิสุภาโว หรืออดีตพระสุนทรราชมานิตเถระ เจ้าคณะ อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งเคยถูกจับสึก และต้องโทษในคดีอาญาหลายคดี เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2544
หลังจากที่พ้นโทษมาได้ ปรากฏว่า นายชยันตร์ อภิสุภาพ ได้เข้ามาบวชเป็นพระอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2559 ที่วัดในวัง อ.นาทวี ซึ่งในอดีตเคยเป็นเจ้าอาวาส โดยขออนุญาตกับพระครูโชตยาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดในวัง ว่า จะขออาศัยอยู่ที่วัดในวัง 15 วัน หลังจากนั้นก็จะไปอยู่วัดอื่น
แต่หลังจากพ้น 15 วันแล้ว ก็ไม่มีการออกจากวัด และนอกจากไม่ทำตามสัญญาแล้ว พระชยันตร์ ยังได้ทำความผิดอีกหลายเรื่อง เช่น ไม่เชื่อฟังคำสั่งเจ้าอาวาส และทำการลักทรัพย์สินของวัดอีกหลายรายการ จนสุดท้ายพระครูโชตยาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดในวัง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ พระชยันตร์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.นาทวี เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อ พระชยัตร์
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ในระหว่างดำเนินรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อ พระชยันตร์ รวมทั้งพระชยัตร์ ก็ไม่ยอมเดินทางออกจากวัดตามที่เจ้าอาวาสต้องการให้พระชยันตร์ เดินทางออกจากวัดในวัง
พระครูโชตยาธิคุณ เปิดเผยว่า พระชยันตร์ ขอบวชที่วัดในวัง ซึ่งเป็นวันที่เคยเป็นเจ้าอาวาสในอดีต และขออาศัยวัดเพียง 15 วัน เพื่อรักษาอาการป่วย ก็จะเดินทางไปอยู่ที่อื่น อาตมาจึงอนุญาต แต่หลังจากครบ 15 วัน ก็ไม่เดินทางจากวัด และยังก่อเรื่องมากมาย จนในที่สุดอาตมาได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ พระชยัตร์ใน 4 ข้อหาด้วยกัน คือ 1.ขัดคำสั่งอุปัชฌาย์ 2.ทำให้เกิดความแตกแยกทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์ 3.สร้างความเสื่อมเสีย โดยอ้างชื่อวัดในทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาส และ 4.มีการลักทรัพย์ ด้วยการนำทรัพย์สินภายในวัดออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
จึงขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอให้พระชยัตร์ ออกจากวัดโดยเร็ว โดยเจ้าอาวาสวัดในวัง กล่าวว่า นอกจากแจ้งความในทั้ง 4 ข้อหาแล้ว ยังได้ลงบันทึกประจำวันว่า ตนเองเกรงไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากพระชยัตร์ เป็นพระที่มีอิทธิพล มีลูกศิษย์ลูกหามาก หากตนเป็นอะไรไปผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือ พระชยันตร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การกลับมาบวชครั้งนี้ของพระชยัตร์ เป็นการบวชที่ไม่ถูกต้อง โดยก่อนที่จะมีการบวช พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะหนใต้ ได้มีหนังสือทักท้วงให้พระอุปัชฌาย์ไตร่ตรองให้ดี เพราะเห็นว่าไม่เหมาะสม และต่อมา นางวรรณี นวลแก้ว รักษาการ ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา ได้มีหนังสือทักท้วงไปยังเจ้าอาวาสวัดในวัง เพราะให้ปฏิบัติตามบัญชาของเจ้าคณะใหญ่หนใต้ แต่ไม่มีใครปฏิบัติตาม
สำหรับประวัติเดิมของ พระชยัตร์ หรืออดีตพระสุนทรมานิต หรือนายชยัตร์ อภิสุภาพ นั้น เคยถูก พ.ต.อ.พงษ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ รักษาราชการแทน ผบก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมในข้อหายักยอกทรัพย์ของวัดศรีสว่างวงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 11 ล้าน 2 แสนบาท โดยจับกุมได้ขณะที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะที่กำลังเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย
โดย นายชยัตร์ ซึ่งได้สึกจากพระจากการจับกุมในข้อหาอื่นๆ ก่อนหน้านั้นอีกหลายข้อหา จึงได้ลาสิขาไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ต่อมา ศาลได้ยกฟ้อง โดยศาลได้พิพากษาปรับเป็นเงิน 5,000 บาท ในข้อหาเผาทำลายหลักฐานทางราชการ แต่โทษจำให้รอลงอาญาไว้ หลังจากที่พ้นโทษ นายชยัตร์ ได้หายออกจาก อ.นาทวี ไปหลายสิบปี ก่อนที่จะกลับมาขอบวชเป็นพระภิกษุอีกครั้ง ก่อนที่จะถูกเจ้าอาวาสแจ้งความ และถูกชาวบ้านขับไล่ในครั้งนี้
ซึ่งหากว่าทาง พระชยัตร์ หรืออดีตพระสุนทรมานิต หรือนายชยัตร์ อภิสุภาพ ไม่ยอมออกจากวัดในวัง ในวันพรุ่งนี้ ทางพระครูโชตยาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดในวัง จะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.นาทวี อีกข้อหาคือ บุกรุก