xs
xsm
sm
md
lg

รรท.รมว.ยุติธรรมชี้ศิษย์ธรรมกายควรปฏิบัติตามกฎหมาย แนะ “พระธัมมชโย” ใช้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้ศิษย์ธรรมกายต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ได้ทำลายศาสนา ผิดหรือถูก “พระธัมมชโย” ต้องพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม ยันดีเอสไอทำตามขั้นตอนกฎหมาย

วันนี้ (13 พ.ย.) เวลา 15.00 น. ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 1 ชั้น 9 กระทรวงยุติธรรม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมเพื่อหารือแนวทางการดำเนินงาน ตลอดจนรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

นายวิษณุเปิดเผยหลังการประชุมว่า การประชุมในวันนี้ไม่มีการพูดถึงคดี พระธัมมชโยแต่ได้เรียน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ แล้วว่างานที่ได้มอบหมายก่อนหน้านี้หากไม่มีปัญหาอุปสรรคก็ดำเนินการตามปกติแต่หากพบปัญหาให้รายงานมายังตนเนื่องจากอาจต้องไปรายงานให้นายกรัฐมนตรี รวมถึงกรณีวัดพระธรรมกายได้มีการมอบหมายสั่งการอย่างไรก็ต้องดำเนินการไป ทั้งนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนก่อนก็ไม่ได้สั่งการอะไรเพราะคดีดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ไปกระทบมวลชนจำนวนมากเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า อธิบดีดีเอสไอรายงานปัญหาอุปสรรคอะไรหรือไม่ นายวิษณุกล่าวต่อว่า ไม่มีแต่ได้สอบถาม อธิบดีดีเอสไอ เกี่ยวกับคดีว่ามีจำนวนกี่ข้อหาและก็ได้รับการอธิบายให้ฟัง ซึ่งตนไม่ได้สั่งการกำชับอะไรเป็นพิเศษและสั่งการเดินหน้าอะไรเลยเพราะว่าไม่สามารถสั่งได้ โดยก่อนหน้านี้ก็ได้รับรายงานซึ่งเหมือนกับหนังสือพิมพ์ลงข่าว ดังนั้น ตนจึงได้มาสอบถามในวันนี้ว่าจริงแล้วมีกี่ข้อหาและเพิ่งเข้าใจว่ามีข้อหาของ ดีเอสไอ และตำรวจ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความกังวลกับเหล่าศิษย์ยานุศิษย์ภายในวัดพระธรรมกายหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า กังวลในแง่เราอยากจะเห็นการปฏิบัติตามกฎหมาย และต้องทำความเข้าใจว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของการรังแกศาสนา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนก็เป็นชาวพุทธ ศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา ไม่มีใครไปรังแกเบียดเบียนพระพุทธศาสนา แต่เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีการตั้งข้อกล่าวหาเป็นคดีอาญาหลายข้อหาต่อบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องดำเนินคดี ส่วนจะถูกหรือผิดนั้นต้องไปพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรม บางทีอาจพิสูจน์ชั้นอัยการและอาจไม่สั่งฟ้อง แต่บางทีอาจต้องพิสูจน์กันในชั้นศาล ก็คงทำได้แค่นั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากให้พระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าถามว่าอยากไหม ตนอยากเพราะว่าจะทำให้เรื่องง่ายลง สงบลง ส่วนที่ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ได้ตามที่คิดนั้นก็ยังคิดไม่ออก ส่วนที่ว่าข้อมูลดีเอสไอยืนยันหรือไม่ว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัดพระธรรมกาย ตนไม่กล้าถาม ดีเอสไอ สำหรับบรรดาลูกศิษย์ที่มานั่งสวดมนต์ขัดขวางเจ้าหน้าที่นั้นจะไม่ตอบใครแบบเฉพาะเจาะจงแต่อย่างที่เรียนให้ทราบเป็นเรื่องของการตั้งข้อกล่าวหาในคดีอาญาและดำเนินคดีอาญากับฝ่ายหนึ่งไปแล้ว เช่น รับของโจร หรือ ยักยอกทรัพย์ แล้วทรัพย์ไปอยู่ที่นั้นๆ แล้วคนที่รับทรัพย์ก็ต้องโดนข้อหาด้วย ซึ่งจะแจ้งข้อหากับเฉพาะบางคนไม่ได้แต่ว่าในที่สุดความเป็นจริงต้องแสดงออกมาว่าใครผิดหรือไม่อย่างไร จึงมีเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมมองว่าการทำงานของดีเอสไอล่าช้าหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ต้องเข้าใจการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ต้องอาศัยขั้นตอนและระยะเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำเองไม่ได้ รวมทั้ง มีปัญหาเรื่องมวลชนอีก ต้องยอมรับในเรื่องนี้จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษขอให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตามเพราะว่าฝ่ายที่ต้องการให้เร่งรัดก็มี ฝ่ายที่ต้องการให้ชะลอก็มีเราไม่สามารถที่จะเลือกทำตามฝ่ายใดได้เพราะในที่สุดก็ต้องยึดกฎหมายมีขั้นตอนเพราะมีเรื่องต้องไปสู่อัยการและศาล และให้อธิบดีดีเอสไอทำตามขั้นตอนของกฎหมายไปแล้วกัน อย่างไรก็ตาม กำหนดกรอบเวลาจับกุมพระธัมมชโย ตนไม่มีอำนาจ

กำลังโหลดความคิดเห็น