ศูนย์ข่าวภูเก็ต - 5 หน่วยงานหลักจัดระเบียบด้านต่างๆ ในภูเก็ต ประสานเสียงเดินหน้าต่อแก้ปัญหามาเฟีย รุกชายหาด รถรับจ้าง สถานบันเทิง คุยกันแล้วเดินไปในแนวทางเดียวกัน ด้านผู้ว่าฯ ยันภูเก็ตไม่มีส่วย ขู่เอาจริงทั้งผู้ฝ่าฝืน ข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเอี่ยว เอาผิดถึงที่สุด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (28 พ.ย.) ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ท.สุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายบรรเจิด รัตนมโนธรรม อัยการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าว “สัปดาห์แห่งการณรงค์ตรวจสอบผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล” ใน 5 เรื่องหลักของจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย 1.การดำเนินการจัดระเบียบชายหาด 2.การจัดระเบียบรถรับจ้าง 3.การดำเนินการต่อผู้บุกรุกชายหาดและที่สาธารณะ 4.การดำเนินการต่อกลุ่มผู้มีอิทธิพล และ 5.การดำเนินการต่อสถานบริการและผู้ที่เกี่ยวข้อง
นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการใน 5 เรื่องหลักของจังหวัดภูเก็ต ตามนโยบายรัฐบาล คือ การจัดระเบียบชายหาด รถรับจ้าง ผู้บุกรุกชายหาด กลุ่มผู้มีอิทธิพล และสถานบริการ นั้น จังหวัดภูเก็ต ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งมณฑลทหารบกที่ 41 ทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รวมถึงทางอัยการจังหวัดภูเก็ต มาระยะหนึ่งแล้ว การพูดคุยเข้าใจกันเป็นอย่างดีถึงนโยบายของรัฐบาล ทำให้การดำเนินการทั้ง 5 เรื่องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ด้วยการบูรณาการทำงานที่สอดรับประสานกันทั้งหมด โดยได้มีการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานทั้ง 5 ด้าน ให้เป็นไปตามข้อตกลง ข้อกฎหมายที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
นายโชคชัย กล่าวต่อว่า ได้มีการดำเนินการมอบหมายให้นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ จัดเก็บข้อมูล ภาพถ่ายผู้ที่เกี่ยวข้องกระทำความผิดใน 5 เรื่องๆ หลัก ทั้งรายเก่า และรายใหม่ที่เกิดขึ้นซึ่งหน้า ทั้งในเรื่องของผู้ที่บุกรุกชายหาด กลุ่มผู้มีอิทธิพล รถรับจ้าง เป็นต้น หากพบเห็นมีการกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าไปเกี่ยวข้องที่จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัย คดีอาญา และคดีแพ่ง
“แม้เจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับบริหารในพื้นที่ภูเก็ต ทั้งผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้บัญชาการทหารมณฑลที่ 41 จะย้ายมาใหม่เกือบทั้งหมด แต่การดำเนินการเรื่องตามนโยบายของรัฐบาล 5 เรื่องไม่ได้หยุดชะงักแต่อย่างใด ทุกหน่วยได้มีการหารือ และพร้อมที่จะเดินหน้าดำเนินการดังกล่าวต่อไปอย่างต่อเนื่องตามข้อตกลงเดิมทั้งหมดยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด โดยจะดำเนินการตั้งแต่ระดับที่ละมุนละม่อม ไปจนถึงการรวบรวมพยานหลักฐาน พบปะพูดคุยและท้ายสุดคือ ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งได้แจ้งไปยังฝ่ายปฏิบัติ และผู้บังคับบัญชาทั้งหมดแล้ว ดังนั้น ผู้ที่คิดที่จะกระทำผิดก็ให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะผมไม่ได้ขู่แต่ผมจะดำเนินการจริงๆ และคงทราบกันแล้วว่า ที่จังหวัดมหาสารคาม ผมได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว” ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เกิดความมั่นใจเรื่องของความปลอดภัย”
นายโชคชัย ยังกล่าวถึงการดำเนินการต่อสถานบริการที่เปิดเกินเวลาว่า ให้เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ยึดกฎหมายเป็นหลัก แต่ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากให้เจ้าหน้าที่ดูในเรื่องของความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ ส่วนเรื่องของการเรียกเก็บส่วยนั้น ยืนยันว่า ในระดับบริหารไม่มีการเรียกเก็บส่วยอย่าแน่นอน ดังนั้น ผู้ที่เข้าไปเรียกเก็บส่วยอย่าอ้างว่าเก็บให้คนโน้นคนนี้ และขณะนี้กำลังหาหลักฐานเพื่อสาวให้ถึงตัวการใหญ่
ด้าน พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 กล่าวว่า การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล และ คสช.ในการรักษาความปลอดภัยตามแหล่งท่องเที่ยวนั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานตั้งแต่การจัดระเบียบชายหาด การจัดระเบียบท่าอากาศยาน รถตู้ รถโดยสารสาธารณะ ให้เป็นระเบียบ และเรียบร้อย รวมทั้งปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล ได้มีการกำหนดการปฏิบัติ ดังนี้ คือ การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ ผู้ประกอบการต่างๆ แจ้งเบาะแส ให้ทุกส่วนตรวจสอบกล้องวงจรปิด จัดหน่วยกำลังในพื้นที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ตรวจสอบข่าวสารก่อนนำเสนอ เป็นต้น
ผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 ยังกล่าวถึงการรับส่วยสถานบริการในภูเก็ต ว่า ก่อนหน้าได้รับการร้องเรียนเรื่องการเก็บส่วย ซึ่งได้เชิญผู้ที่ถูกร้องเรียนไปทำความเข้าใจแล้วทั้งหมด 9 คน แต่ไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐาน มีแต่ชื่อ จึงได้ขอให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว
ขณะที่ พล.ร.ท.สุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการจัดระเบียบด้านต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต โดยได้จัดกำลังพลเข้าปฏิบัติการเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และโดยเฉพาะในช่วงนี้กำลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน และนักท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ เต็มขีดความสามารถที่มีอยู่ ขอให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวมั่นใจ
นายบรรเจิด รัตนมโนธรรม อัยการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางอัยการจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ที่กระทำผิดฝ่าฝืนการจัดระเบียบด้านต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต และจะนำโทษเดิมที่ถูกดำเนินคดีมาพิจารณาเพิ่มเติม
พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการจัดระเบียบด้านต่างๆ ของภูเก็ตนั้นจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป แม้ว่าผู้บริหารจะถูกโยกย้ายมาใหม่ทั้งหมดก็ตาม แต่ได้มีการหารือ และพูดคุยกันในหลายครั้งแล้ว ทำให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกหน่วย ดังนั้น ผู้ที่จ้องจะกระทำผิดก็ขอให้ยุติเสีย เพราะเราจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนบ่อนการพนันมีนโยบายชัดเจนในการปราบปราม ขอให้ชาวภูเก็ตรอดู
อย่างไรก็ตาม ภายหลังแถลงข่าวแล้วเสร็จ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยคณะได้ลงพื้นที่จัดระเบียบชายหาดสุรินทร์ และหาดป่าตอง