xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เช่าศูนย์อาหารโลมาพบผู้ว่าฯ ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อน หลัง ทม.จะปิดอาคาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มผู้เช่าแผงศูนย์อาหารสวนสาธารณะโลมา พบผู้ว่าฯ ขอความช่วยเหลือ หลังเทศบาลนำแผ่นสังกะสีไปปิดกั้นอาคาร เพราะครบกำหนดที่ผู้เช่าจะต้องย้ายออกหลังหมดสัญญาเช่า ผวจ.ระบุพร้อมช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่มผู้เช่าแผงศูนย์อาหาร สวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ประมาณ 15 คน เดินทางเข้าพบกับ นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ทางจังหวัดเร่งช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จากการยกเลิกสัญญาเช่า และเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ทางเทศบาลเมืองป่าตอง นำอุปกรณ์ พร้อมแผ่นสังกะสีไปปิดล้อมอาคารศูนย์อาหารสวนสาธารณะโลมา หลังเทศบาลยกเลิกสัญญากับชาวบ้านที่เช่าแผง และครบกำหนดให้ผู้เช่าย้ายออก แต่ยังมีผู้เช่า จำนวน 13 ราย ที่ยังไม่ยอมย้ายออก โดยทางเทศบาลจะนำอาคารดังกล่าวไปทำเป็นอาคารอเนกประสงค์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการยื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยการยื่นหนังสือในครั้งนั้น ทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด และคณะกรรมการได้มีการร่วมประชุมกันแล้วมีมติให้เทศบาล และชาวบ้านกลับไปคุยกันอีกครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันระหว่างเทศบาลกับชาวบ้าน

นางวรรณี เกษะโกมล พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การเข้าพบกับผู้ว่าฯ ในครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าที่ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกยกเลิกสัญญาเช่ากับทางเทศบาลเมืองป่าตอง ซึ่งที่ผ่านมา หลังจากมีการประชุมร่วมกันในส่วนของคณะทำงาน และที่ประชุมมีมติให้เทศบาลไปหารือร่วมกันกับชาวบ้านเพื่อหาทางออกของปัญหา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย จนกระทั่งเมื่อวานมีการนำแผ่นสังกะสีมาปิดกั้นตัวอาคาร จึงอยากขอความช่วยเหลือจากทางเทศบาลให้ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านต้องการในขณะนี้คือ ขอให้ชาวบ้านยังสามารถขายอาหารได้ต่อ จนกว่าจะมีการเจราจาตกลงกันได้ระหว่างชาวบ้านกับทางเทศบาล

ขณะที่ นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อชาวบ้านว่า ทางจังหวัดทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นอย่างดี และมีการติดตาม และพยามยามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด มีการประชุมร่วมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งชาวบ้าน และเทศบาล โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ซึ่งการดำเนินการนั้นก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งจะต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์เข้ามามาดำเนินการ ตามขั้นตอนก็ต้องให้มีการพูดคุยกันก่อนระหว่างเทศบาล และชาวบ้าน ซึ่งการพูดคุยไม่ใช่ว่าคุยครั้งเดียวแล้วปัญหาจะจบ บางครั้งอาจจะต้องคุยกันหลายๆ ครั้ง แต่ถ้าไม่สามารถพูดคุยกันได้ต้องต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ทางเทศบาลพร้อมที่จะช่วยเหลือชาวบ้านในการประกอบอาชีพ ก็ต้องหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหากันต่อไป จริงๆ แล้วอยากให้มีการพูดคุยกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย

สำหรับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนนั้น ทางจังหวัดยินดีเข้าไปดูแล และหาแผนรอง ส่วนจะตอบว่าชาวบ้านสามารถขายของต่อได้หรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องที่ทางชาวบ้าน และเทศบาลจะต้องมาพูดคุยกัน และคนที่จะตอบคำถามนี้ก็คือ เทศบาล ซึ่งตนอาจจะเชิญนายกเทศมนตรีมาคุยด้วย แต่ตนไม่สามารถไปสั่งนายกฯ ได้ว่าจะต้องทำแบบนั้นแบบนี้ ถ้าเขายืนยันว่าการดำเนินการเป็นไปตามหลังนิติศาสตร์ เพราะตนมีหน้าที่กำกับดูแลเท่านั้น

สิ่งที่ตนทำได้คือ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านซึ่งจะต้องมองลู่ทางอื่นไว้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับชาวบ้านด้วยว่าจะยอมรับได้หรือไม่ และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในครั้งนี้ไม่อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายเอาเรื่องการเมืองมาพูดกัน อยากให้พูดกันด้วยเหตุด้วยผลมากกว่า และยืนยันว่าทางจังหวัดไม่นิ่งดูดายสำหรับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้เวลากี่วันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งตนพร้อมที่จะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้

ทุกอย่างก็ต้องไปตามข้อกฎหมาย แก้ไขปัญหาด้วยรัฐศาสตร์ก่อน แต่หากคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องว่ากันตามนิติศาสตร์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การหันหน้ามาพูดคุยกันของทั้งสองฝ่าย การบริหารราชการอย่าดึงการเมืองมาเกี่ยว ส่วนจะขายต่อได้ไหมต้องคุยกับเทศบาล หากเทศบาลใช้หลักนิติศาสตร์ ก็ไม่สามารถขายได้ หากไม่ได้ขาย เมื่อเกิดความเดือดร้อน ทางจังหวัดก็ต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ นายโชคชัย กล่าว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น