ตรัง - วัดตันตยาภิรม พระอารามหลวงแห่งแรกของ จ.ตรัง เตรียมบูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถที่ “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” ได้เสด็จพระราชดำเนินยกช่อฟ้า เมื่อ พ.ศ.2517 ให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง
วันนี้ (16 พ.ย.) พระครูอาทรกิตยานุกูล เจ้าอาวาสวัดตันตยาภิรม พระอารามหลวงแห่งแรกของ จ.ตรัง พร้อมด้วย น.ส.กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง ได้ร่วมกันสำรวจพระอุโบสถวัดตันตยาภิรม ซึ่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2517 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินยกช่อฟ้าพระอุโบสถ พร้อมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามาภิไธยย่อ ภปร. ไว้ที่หน้าบัน เหนือเศียรพระพรหมทรงหงส์ของพระอุโบสถด้านทิศตะวันออก เนื่องจากมีนักเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ สวรรคต
พระอุโบสถวัดตันตยาภิรม เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทรงไทย ตามแบบของกรมศิลปากร สร้างเมื่อ พ.ศ.2515 มีขนาดกว้าง 9 เมตร ยาว 24 เมตร ลักษณะหลังคาลดชั้น 3 ชั้น มุงกระเบื้องดินเผา มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ประดับกระจกสีทองลวดลาย พระประธาน คือ พระพุทธมงคลโสภณโฆษิต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แบบสุโขทัยตอนปลาย หน้าตักกว้าง 59 นิ้ว สูง 80 นิ้ว หล่อด้วยทองเหลืองลงรักปิดทอง โดยมีพระอัครสาวก พระโมคคัลลานะ และพระสารีบุตร ประทับยืนขนาบอยู่ซ้ายขวา ส่วนบานหน้าต่างในพระอุโบสถ แกะสลักเป็นรูปตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์อย่างสวยงาม ดังนั้น หอจดหมายเหตุแห่งชาติฯ จึงได้ขึ้นทะเบียนพระอุโบสถของวัดแห่งนี้เอาไว้ว่า มีความสวยงามเป็น 1 ใน 200 วัดทั่วประเทศ เมื่อคราวฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพระอุโบสถวัดตันตยาภิรม ได้มีสภาพชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ดังนั้น ทางวัดจึงเห็นสมควรที่จะทำการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 9 เดือน ก่อนที่จะมีการถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมทั้งทางวัดยังได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาทรงเปิดพระสัมพุทธเจดีย์ภูมิพลาธิกาญจนาภิเษก ซึ่งสร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของในหลวง รัชกาลที่ ๙ เมื่อครั้งเสด็จฯ ยกช่อฟ้าพระอุโบสถ ออกแบบโดย ศ.ประเวศ ลิมปะรังษี จากกรมศิลปากร และใช้วัสดุปูนตำเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตามกระแสพระราชดำรัส