ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ปิดฉากอีกกลุ่ม! ตร.กองปราบ จับกุมเจ้าแม่เครือข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่เบอร์หนึ่ง อายุเพียง 22 ปี พบมีเงินหมุนเวียนในระบบ 120 ล้านบาท สร้างทีมงาน และเครือข่ายไม่ถึง 1 ปี
วันนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม และ พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รองผู้กำกับการการสืบสวน กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมกำลังตำรวจกองปราบ สามารถติดตามตามจับกุม น.ส.ดาริกา เดชสี อายุ 22 ปี หรือกัส ชาวกรุงเทพฯ เจ้าแม่เครือข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่ระดับร้อยล้านได้แล้ว
หลังจากที่ใช้เวลาสืบสวนหาเบาะแสมานานกว่า 1 เดือน กระทั่งพบว่า พักอยู่ที่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 3 ต.บ้านหลวง อ.ดอนตูม จ.นครปฐม จึงได้เข้าจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ประสานงานกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม จ.สงขลา ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ
สำหรับ น.ส.ดาริกา หรือกัส แม้ว่าจะมีอายุเพียง 22 ปี แต่เป็นเบอร์หนึ่ง และเป็นเจ้าแม่ของเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ระดับประเทศ เพราะจากแนวทางการสอบสวนเส้นทางการเงินของเครือข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่กลุ่มนี้ พบว่า ทุกบัญชีถูกโอนเข้าบัญชีของ น.ส.ดาริกา เป็นปลายทางสุดท้ายวงเงิน จำนวน 120 ล้านบาท
และจากการสอบสวน น.ส.ดาริกา ก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดี โดยบอกว่า เริ่มต้นจากการปล่อยเงินกู้นอกระบบธรรมดาทั่วไปตั้งแต่หลักพัน กระทั่งได้ตั้งเป็นเครือข่ายในลักษณะการประกอบธุรกิจที่ให้ค่าตอบแทนสูง โดยตั้งในรูปแบบให้ร่วมลงทุนธุรกิจอาหารส่งออก และธุรกิจซื้อขายรถยนต์หุ้นละ 3,000 บาท และจ่ายเงินปันผลร้อยละ 600 บาทต่อสัปดาห์ หรือร้อยละ 18 ต่อสัปดาห์ และร้อยละ 72 เดือน โดยมีเงื่อนไขจะแบ่งปันผลตอบแทน 3 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะได้รับครั้งแรก และครั้งที่ 2 ส่วนครั้งที่ 3 จะสูญเงินทั้งหมด
พร้อมอ้างว่า มีเครือข่ายธุรกิจที่ระดมเงินจากสมาชิกแค่ จ.สงขลา และกรุงเทพฯ เท่านั้น โดยทำมาราว 1 ปี มียอดเงินสูงสุด 120 ล้านบาท โดยเงินที่ระดมมาได้ทั้งหมดจะนำไปปล่อยกู้ต่อ แต่ระยะหลังไม่สามารถเก็บดอกเบี้ย และเงินต้นได้จึงไม่มีเงินนำมาจ่ายค่าตอบแทนให้แก่สมาชิกได้ ระบบจึงสะดุด และล่มลงในที่สุด
ทั้งนี้ น.ส.ดาริกา บอกว่า แม้ยอดเงินที่ระดมมาจากสมาชิกจะสูงถึง 120 บาท แต่ก็เป็นเงินที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ ให้ผลตอบแทนสมาชิกกลับไปบ้าง ปล่อยกู้แล้วไม่ได้คืนบ้าง เมื่อระบบล่มตนจึงเหลือเงินอยู่เพียง 4 แสนบาท จากการขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พร้อมกับเตือนว่า ปัจจุบันเครือข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่ในลักษณะนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่จะชักชวนกันในสื่อสังคมออนไลน์
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวน น.ส.ดาริกา ยังให้การคลุมเครือเรื่องที่มาที่ไปของยอดเงิน 120 ล้านบาท ที่หมุนเวียนอยู่ในบัญชี และเชื่อว่าน่าจะมีการโอนย้ายเงินสดบางส่วนไปเก็บไว้ที่อื่นด้วย เพราะทราบว่าได้ไปสร้างบ้านที่ จ.พิจิตร รวมทั้งมีภาพที่แม่ของ น.ส.ดาริกา ถือเงินปึกใหญ่นับล้านบาทที่มีการแชร์กันในกลุ่มด้วย ซึ่งต้องสอบสวนขยายผลต่อไป
สำหรับเครือข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่กลุ่มนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน ถูกจับไปแล้ว 4 คนคือ น.ส.วิรงรอง ทองจืด และนายกิตติภพ อินทรสกุล สามี นางอัสมา หมีนสุก และนายนุอาร์ รังสรรค์ สามี และคนสุดท้ายคือ น.ส.ดาริกา ซึ่งเป็นการปิดฉากธุรกิจเครือข่ายแชร์ลูกโซ่กลุ่มนี้ลงได้ในที่สุด