ยะลา - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง เพื่อแก้ปัญหาทางด้านการคมนาคมของ อ.เบตง และพื้นที่ใกล้เคียง สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามบินจันทรัตน์ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง และตรวจเยี่ยมหน่วยกำลังในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายการทำงานแก่หน่วยงาน ซึ่งมี นายดำรงค์ ดีสกูล นายอำเภอเบตง และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมรับฟัง
ภายหลังการตรวจเยี่ยม พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับฟังความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง เพื่อแก้ปัญหาทางด้านการคมนาคมของ อ.เบตง จ.ยะลา และพื้นที่ใกล้เคียง สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และความมั่นคงของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับโครงการก่อสร้างดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ห่างจากตัวเมืองเบตงประมาณ 10 กิโลเมตร และมีระยะทางห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 1,084 กิโลเมตร ทั้งนี้ เนื่องจากเส้นทางการคมนาคมทางบกไปยัง อ.เบตง สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ไม่สะดวกต่อการเดินทาง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาด้านคมนาคมดังกล่าว ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายการพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงส่งเสริมให้มีการเดินทางทางอากาศในพื้นที่
รวมทั้งจะเป็นการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และความมั่นคงของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสนามบินเบตง จะเป็นสนามบินพาณิชย์ขนาดทางวิ่งกว้าง 30 เมตร ยาว 1,800 เมตร จะสามารถรองรับเครื่องบินขนาด 50-70 ที่นั่ง จอดได้ 3 ลำ และอาคารที่พักผู้โดยสารสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 150 คนต่อชั่วโมง และจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2561
ขณะเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีการมอบนโยบายแก่หน่วยงานราชการในพื้นที่ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมรองรับโครงการพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยมอบนโยบาย 3 เรื่องคือ
1.การใช้กฎหมายนำ ซึ่งปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นจากความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมของพี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติภายใต้กฎหมายที่เป็นธรรม และถูกต้อง
2.การจับกุมต้องดำเนินการให้ถูกตัวบุคคล ต้องปฏิบัติด้วยความโปร่งใสในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม การซักถาม และต้องไม่เลือกปฏิบัติ
3.โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ หากละเมิดกฎหมาย กรอบนโยบาย หรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดก็จะถูกปลดจากตำแหน่งทันที