สตูล - ชาวมานิ รวมทั้งเด็กด้อยโอกาสในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 ยึดมั่นจะสร้างประโยชน์สุขให้แก่สังคม ขอบคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงให้ความสำคัญต่อการศึกษา
วันนี้ (3 พ.ย.) ด.ญ.บิว ศรีธารโต อายุ 13 ปี ชาวมานิ หรือซาไก นักเรียนที่ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จ.สตูล ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยน้องบิว ได้มีโอกาสเข้าเรียนในช่วงตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กในชั้นอนุบาล จากที่ครูได้ไปพบ และขอพ่อแม่ของน้องบิว นำพามาเรียนโรงเรียนแห่งนี้ ปัจจุบัน น้องบิว กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 และน้องบิว มีความสามารถหลายอย่าง ทั้งอ่านหนังสือภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว คิดเลขได้ และกำลังเรียนภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ น้องบิว ยังเป็นนักกีฬาของโรงเรียนอีกด้วย
และเมื่อน้องบิว ได้เข้ามาเรียนรู้ และรับทราบประวัติโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งเป็นของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ โดยมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตั้งขึ้นมา และอยู่ในความดูแล จนน้องบิว ได้รัก และเทิดทูน กราบไหว้ทุกครั้งยามเดินผ่านพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และน้องบิว ยังสนใจในเรื่องพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่เสด็จไปยังที่ต่างๆ และมักจะกลับไปเล่าให้ญาติพี่น้องฟังเสมอ
สำหรับการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้น้องบิว เสียใจเป็นอย่างมาก เพราะน้องบิว รัก และถือว่าพระองค์เป็นพ่อคนหนึ่งที่ให้โอกาสตนเอง รุ่นน้อง และเพื่อนๆ ชาวมานิที่ได้มาเรียนที่นี่ ต่างรู้สึกใจหาย และสัญญาจะขอเป็นคนดี และภูมิใจที่เกิดมาในพื้นที่แผ่นดินไทย โดยพระองค์ยังให้โอกาสชาวมานิ ชาวกลุ่มน้อย มีสิทธิเท่าเทียมกับคนทั่วไป ซึ่งน้องบิว สัญญาว่าจะนำความรู้เหล่านี้ไปพัฒนาคนในหมู่บ้านของตนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ไม่แตกต่างกับเด็กๆ นักเรียนคนอื่น โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนยากจน พ่อแม่แยกทางกัน และครอบครัวมีปัญหา นักเรียนเหล่านี้ที่ได้มีโอกาสมาเรียนที่นี่ต่างก็ภูมิใจที่ได้มาเรียนโรงเรียนของพ่อ ที่ให้เรามีโอกาสเรียนจบสูง โดยเฉพาะ นายสันติยา ทองคำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และได้เป็นประธานนักเรียน กล่าวเช่นกันว่า พ่อแม่แยกทางกัน หากไม่มีโรงเรียนแห่งนี้ที่สร้างไว้ให้แก่เด็กยากจน เราเองก็อาจจะเป็นเด็กที่มีปัญหาในสังคม และเราก็ดีใจที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก และตนเองก็จะดูข่าวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวง พระองค์ท่านเสด็จในถิ่นทุรกันดารอย่างมาก โดยไม่เหน็ดเหนื่อ ยตนเองจะเอาไปเป็นแบบอย่างในการต่อสู้ชีวิต และเมื่อโตขึ้นจะทำดีตอบแทนพระคุณของพระองค์
ด้าน นายรังสิวุฒิ หมุดยะฝา รองผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จ.สตูล กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้จัดห้องแสดงความอาลัยรัชกาลที่ ๙ และทำตู้เก็บหนังสือพระราชประวัติของรัชกาลที่ ๙ รวมทั้งพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ท่านได้ทำไว้ เพื่อให้ประชาชน และนักเรียนได้มาศึกษาเรียนรู้ รวมทั้งทางโรงเรียนยังคงนำแนวพระราชดำริในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ทั้งเป็นเรื่องการสอนหนังสือ และการปลูกพืชผักสวนครัว นำมาต่อยอดเป็นอาหารกลางวันแก่เด็กๆ และนำไปขายด้านนอกเป็นรายได้อีกด้วย
สำหรับโรงเรียนแห่งนี้มีเด็กชาย หญิง 900 คน มีชนกลุ่มน้อยมานิ เรียนร่วมด้วยจำนวน 8 คน มีตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล มัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จ.สตูล อยู่ในความดูแลของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ โดยมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งขึ้นมา เป็นโรงเรียนแบบศึกษาสงเคราะห์ที่รับเด็กด้อยโอกาสให้มีสิทธิ และโอกาสได้รับบริการการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสิ่งของสนับสนุนการเรียนการสอนของโรงเรียน รวมทั้งพระราชทานการสงเคราะห์แก่นักเรียนโดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์เป็นประจำทุกปี ที่สำคัญทรงมีพระราชดำรัสเพื่อเป็นข้อคิดสำหรับเด็กได้นำไปปฏิบัติ คือ ความสำคัญของคนเราไม่ได้อยู่ที่มีอายุยืนยาว แต่อยู่ที่อายุกว้างขวาง ถ้ามีอายุยืนยาวแล้วไม่ทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมืองก็ไร้ค่า เราควรมีอายุกว้างขวาง แม้อายุจะไม่ยืนยาวแต่ได้ทำประโยชน์อย่างกว้างขวาง