สุราษฎร์ธานี - 3 หนุ่มจากหาดใหญ่ พัทลุง และทุ่งสง เดินเทิดพระเกียรติแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถึงสุราษฎร์ธานีแล้ว ท่ามกลางสายฝนตกลงตลอด แต่ก็ได้กำลังใจจากประชาชนจำนวนมากตลอดเส้นทาง
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (30 ต.ค.) วันนี้เป็นวันที่ 9 ที่นายอธิตา ศรีทวีป อายุ 30 ปี อดีตนักวิ่ง ที่ตัดสินใจเดินเทิดพระเกียรติ และแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ โดยออกเดินเท้าออกจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา บนเส้นทางถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งขณะนี้ได้เดินผ่านเขตอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาแล้ว
พร้อมด้วย นายประยูร หนูนุ้ย อายุ 53 ปี อดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่ากะชุม ที่ได้เดินเท้าออกจากจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม และนายเกียรติศักดิ์ หอมประสิทธิ์ อายุ 19 ปี อาสาสมัครกู้ภัยสยามร่วมใจ ปู่อินทร์ ที่ได้เดินเท้าออกจากอำเภอทุ่งสง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม โดยทั้งหมดสุขภาพยังแข็งแรง และสดชื่น
อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา มีประชาชนพ่อค้าแม่ค้าได้นำอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมมอบเงินให้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยทั้งหมดตั้งใจว่าจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 30 วัน ก็จะถึงสนามหลวงเพื่อเข้ากราบพระบรมศพ
ซึ่งการเดินเท้าเข้าในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ในครั้งนี้ทั้งหมดต้องเดินฝ่าสายฝนที่ตกลงมาตลอดเส้นทาง โดยทั้ง 3 คน มีเป้าหมายจะนอนพักที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี หรือโค-อ๊อฟ อำเภอพุนพิน ก่อนที่จะเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (30 ต.ค.) วันนี้เป็นวันที่ 9 ที่นายอธิตา ศรีทวีป อายุ 30 ปี อดีตนักวิ่ง ที่ตัดสินใจเดินเทิดพระเกียรติ และแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ โดยออกเดินเท้าออกจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา บนเส้นทางถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งขณะนี้ได้เดินผ่านเขตอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาแล้ว
พร้อมด้วย นายประยูร หนูนุ้ย อายุ 53 ปี อดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่ากะชุม ที่ได้เดินเท้าออกจากจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม และนายเกียรติศักดิ์ หอมประสิทธิ์ อายุ 19 ปี อาสาสมัครกู้ภัยสยามร่วมใจ ปู่อินทร์ ที่ได้เดินเท้าออกจากอำเภอทุ่งสง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม โดยทั้งหมดสุขภาพยังแข็งแรง และสดชื่น
อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา มีประชาชนพ่อค้าแม่ค้าได้นำอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมมอบเงินให้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยทั้งหมดตั้งใจว่าจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 30 วัน ก็จะถึงสนามหลวงเพื่อเข้ากราบพระบรมศพ
ซึ่งการเดินเท้าเข้าในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ในครั้งนี้ทั้งหมดต้องเดินฝ่าสายฝนที่ตกลงมาตลอดเส้นทาง โดยทั้ง 3 คน มีเป้าหมายจะนอนพักที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี หรือโค-อ๊อฟ อำเภอพุนพิน ก่อนที่จะเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้