สุราษฎร์ธานี - หนุ่มสุราษฎร์ฯ สร้างจักรยานสัญลักษณ์ Bike For Dad เพื่อปั่นไปกราบพระบรมศพ และนำไปถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นายภมร เทพสุวรรณ หนุ่มใหญ่วัย 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.8 ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอีกคนที่นำความรู้ความสามารถ และฝีมือซึ่งฝึกฝนมาตั้งแต่สมัยเรียนช่างกลโรงงาน สถาบันเทคโนพระจอมเกล้า พระนครเหนือ มาสร้างจักรยานด้วยตัวเอง และเป็นจักรยานที่มีอยู่คันเดียวในประเทศที่มีความแตกต่างจากจักรยานทั่วไป โดยตัวถังทำเป็นสัญลักษณ์ Bike For Dad
ซึ่งเดิมตั้งใจที่จะปั่นจักรยานที่สร้างขึ้นมาไปถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่โรงพยาบาลศิริราช และมีความตั้งใจจะหารายได้สมทบทุนให้แก่โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ หลังจากนั้น จะถวายจักรยานคันนี้แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
แต่ภายหลังทราบข่าวพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต ทำให้เสียใจหยุดชะงักไประยะหนึ่ง แต่เมื่อนึกถึงคำสอนจึงมีมานะเร่งมือทำจักรยานคันนี้ขึ้นมาอีกครั้งด้วยใจเต็มร้อย จนจักรยานเป็นรูปเป็นร่าง โดยกำหนดใช้สีตัวรถเป็นสีฟ้า-เหลือง โดยตั้งใจปั่นไปแสดงความอาลัยพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวัง พร้อมกับมอบจักรยานคันดังกล่าวให้ทางสำนักพระราชวังต่อไป โดยกำหนดปั่นออกจากอำเภอเวียงสระ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้
นายภมร เทพสุวรรณ หนุ่มใหญ่วัย 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.8 ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอีกคนที่นำความรู้ความสามารถ และฝีมือซึ่งฝึกฝนมาตั้งแต่สมัยเรียนช่างกลโรงงาน สถาบันเทคโนพระจอมเกล้า พระนครเหนือ มาสร้างจักรยานด้วยตัวเอง และเป็นจักรยานที่มีอยู่คันเดียวในประเทศที่มีความแตกต่างจากจักรยานทั่วไป โดยตัวถังทำเป็นสัญลักษณ์ Bike For Dad
ซึ่งเดิมตั้งใจที่จะปั่นจักรยานที่สร้างขึ้นมาไปถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่โรงพยาบาลศิริราช และมีความตั้งใจจะหารายได้สมทบทุนให้แก่โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ หลังจากนั้น จะถวายจักรยานคันนี้แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
แต่ภายหลังทราบข่าวพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต ทำให้เสียใจหยุดชะงักไประยะหนึ่ง แต่เมื่อนึกถึงคำสอนจึงมีมานะเร่งมือทำจักรยานคันนี้ขึ้นมาอีกครั้งด้วยใจเต็มร้อย จนจักรยานเป็นรูปเป็นร่าง โดยกำหนดใช้สีตัวรถเป็นสีฟ้า-เหลือง โดยตั้งใจปั่นไปแสดงความอาลัยพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวัง พร้อมกับมอบจักรยานคันดังกล่าวให้ทางสำนักพระราชวังต่อไป โดยกำหนดปั่นออกจากอำเภอเวียงสระ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้