สุราษฎร์ธานี/พังงา - หลายภาคส่วนหลายบุคคล ร่วมใจทำกิจกรรมเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง
ที่กำแพงด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ช่วงค่ำวันที่ 29 ต.ค. นักศึกษา อาจารย์ และ บุคลากร มรส. ได้ร่วมแรงร่วมใจบรรจงวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี บนพื้นผิวกำแพงยาว 70 เมตร สูง 2.40 เมตร โดยประชาชนที่ผ่านไปมาให้ความสนใจ และสนับสนุนทุนขอมีส่วนร่วมในการแสดงออกครั้งนี้จำนวนมาก เพื่อให้ได้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบ สำหรับพระบรมสาทิสลักษณ์ที่วาดเป็นภาพพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และภาพที่แสดงความเป็นอัครมหาศิลปินของพระองค์ท่าน ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างประโยชน์ต่อพสกนิกรชาวไทย และพระราชกรณียกิจขณะที่พระองค์ท่านเสด็จในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 31 ต.ค.59
ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) กล่าวว่า การรวมตัวกันวาดภาพของนักศึกษา และอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีในครั้งนี้เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้พระราชทานนาม “ราชภัฏ” ให้เป็นชื่อประจำสถาบัน ทั้งยังพระราชทานพระราชลัญจกรเป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศอีกด้วย ทำให้คนราชภัฏได้ชื่อว่าเป็นคนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน และเป็นความภาคภูมิใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
ขณะที่วันนี้ (30 ต.ค.) นายภมร เทพสุวรรณ หนุ่มใหญ่วัย 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.8 ต.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี อดีตศิษย์เก่าช่างกลโรงงาน สถาบันเทคโนพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ได้ปั่นจักรยานสัญลักษณ์ไบค์ฟอร์แดด (Dad) ที่ตั้งใจทำมาเกือบ 1 ปี เพื่อนำไปถวายพระพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ออกจากที่ว่าการอำเภอเวียงสระ โดยมีผู้มาส่ง และอวยพรให้กำลังใจจำนวนมาก ซึ่งนายภมร บอกว่าตั้งใจปั่นวันละ 50 กิโลเมตร
โดยวันนี้มีเป้าหมายเส้นทางปั่นผ่านตัวอำเภอบ้านนาสาร และเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ไหว้สักการะศาลหลักเมือง ก่อนออกเดินทางไปกราบพระบรมศพ พร้อมจะแวะเข้าในพื้นที่ย่านชุมชนเพื่อขอรับเงินบริจาคเพื่อจะนำไปมอบให้โรงพยาบาลศิริราช เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตามความตั้งใจไว้ พร้อมทั้งจะมอบรถจักรยานคันดังกล่าวที่ตั้งใจทำตัวรถเป็นสัญลักษณ์ ไบค์ฟอร์แดด สี ฟ้า-เหลือง ให้แก่ทางสำนักพระราชวัง เพื่อเป็นของขวัญให้พ่อตามความตั้งใจไว้
ส่วนหนุ่มใหญ่พิการแขนขา ชาวจังหวัดภูเก็ต นายสมปอง จุ้ยพลับ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/104 ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ซึ่งออกเดินทางจากจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ด้วยรถวีลแชร์ ที่มีเพียงล้อ 2 ล้อ และแกนเหล็ก โดยใช้แผ่นยางรองนั่งบนเหล็ก และใช้เท้าขวาเป็นตัวขับเคลื่อน และบังคับทิศทาง เพื่อมุ่งหน้าไปสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร โดยมีลูกชายคนเล็กและภรรยาคอยติดตามให้กำลังใจ
ปรากฏว่า วันนี้ (30 ต.ค.) ได้เดินทางผ่านอำเภอเมืองพังงา ไปทางอำเภอทับปุด โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยคอยอำนวยความสะดวก และมีชาวพังงาที่ทราบข่าวออกมาให้กำลังใจตลอดเส้นทาง และได้พักที่อำเภอทับปุด 1 คืน ก่อนเตรียมมุ่งหน้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเวลา 07.00 น.วันรุ่งขึ้น
นายสมปอง จุ้ยพลับ เปิดเผยว่า ตนเองมีลูก 3 คน ประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนหน้านี้ เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ และปั่นเพื่อแม่มาแล้ว สำหรับการตัดสินใจเดินทางครั้งนี้อยากให้คนไทยทุกคนที่เห็นตนเองถึงจะพิการแต่ก็มีความรัก และทำเพื่อพระเจ้าอยู่หัว เพราะพระองค์ทำให้คนไทยได้อยู่ดีมีสุข และสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นเพียงเล็กน้อยที่พระองค์ท่านทำให้ประชาชน โดยตนเองจะเดินทางไปเรื่อยๆ คาดว่าจะใช้เวลามากกว่า 10 วัน