กระบี่ - ลูกช้างเพศผู้แรกเกิด อายุ 22 วัน ที่โรงพยาบาลช้างสาขาภาคใต้ จ.กระบี่ ขาดนม หลังแม่ช้างวัย 20 ปี คลอดออกมาแต่ไม่ยอมรับลูก ล่าสุด สัตวแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือจนอาการดีขึ้น ร่างกายแข็งแรง ผิวหนังเริ่มเต่งตึง แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิด และยังต้องกินนมเสริม ค่าใช้จ่ายสูง
จากกรณีที่ลูกช้างเพศผู้ภายในปางช้างในอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ คลอดลูกเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่แม่ช้าง คือ พังรำไพ วัย 20 ปี ไม่ยอมรับลูกที่เพิ่งคลอดออกมาเป็นท้องแรก และพยายามทำร้ายลูก เจ้าของจึงได้นำมาฝากเลี้ยงไว้ที่โรงพยาบาลช้าง อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยสัตว์แพทย์ได้ให้ความช่วยเหลือพยายามนำลูกไปใกล้จนแม่ยอมรับลูก และให้กินนมได้ แต่ประสบปัญหาเรื่องของนมแม่มีปริมาณน้อยทำให้ลูกช้างเจริญเติบโตไม่เต็มที่ และผิวหนังแห้งเหี่ยว จึงต้องใช้นมผงเด็กมาเสริม แต่เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงเนื่องจากลูกช้างกินนมวันละประมาณ 10-20 ลิตร จึงต้องประกาศรับบริจาค และมีการแชร์ในโลกโซเชียลจนมีผู้ใจบุญบริจาคให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายสัตวแพทย์ขจรพัฒน์ บุญประเสริฐ หัวหน้างานโรงพยาบาลช้างสาขาภาคใต้ฯ พร้อมด้วยควาญช้าง และเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจดูอาการของลูกช้างดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายในสวนป่า ภายในโรงพยาบาลช้าง สาขาภาคใต้ ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังเจ้าของได้นำมาฝากเลี้ยงไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่อายุได้ 22 วันแล้ว เบื้องต้น พบว่าอาการลูกช้างเริ่มมีอาการดีขึ้น ผิวหนังที่แห้งเหี่ยวเริ่มเต่งตึง ร่างกายเริ่มแข็งแรง และมีลักษณะร่าเริงเหมือนลูกช้างทั่วไป แต่สัตวแพทย์ยังต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากร่างกายไม่สมบูรณ์เหมือนลูกช้างปกติ เนื่องจากนมแม่มีปริมาณน้อย
นายสัตวแพทย์ขจรพัฒน์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องรับบริจาคนั้นเนื่องจากอยู่ในช่วงปิดงบประมาณ แต่มีเจ้าของช้างนำช้างท้องแรกเข้ามาพอดี สำหรับค่าใช้จ่ายค่านมผงแต่ละวันเฉลี่ยวันละประมาณ 1 พันบาท เพราะลูกช้างต้องกินนมวันละไม่ต่ำกว่า 3 มื้อ ตกวันละประมาณ 10-20 ลิตร นอกจากนี้ ปริมาณนมแม่ก็มีไม่เพียงพอ คาดว่าจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลช้างอีกประมาณ 2 เดือน ซึ่งหากใครต้องการบริจาคติดต่อได้ทีโรงพยาบาลช้างสาขาภาคใต้ จ.กระบี่ โทร.0-7565-6923 หรือเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาคลองท่อม หมายเลข 824-0-39629-1 ซึ่งหลังจากงบประมาณเข้ามาตามปกติภายในเดือนตุลาคมนี้ก็จะประกาศหยุดรับบริจาคต่อไป
จากกรณีที่ลูกช้างเพศผู้ภายในปางช้างในอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ คลอดลูกเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่แม่ช้าง คือ พังรำไพ วัย 20 ปี ไม่ยอมรับลูกที่เพิ่งคลอดออกมาเป็นท้องแรก และพยายามทำร้ายลูก เจ้าของจึงได้นำมาฝากเลี้ยงไว้ที่โรงพยาบาลช้าง อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยสัตว์แพทย์ได้ให้ความช่วยเหลือพยายามนำลูกไปใกล้จนแม่ยอมรับลูก และให้กินนมได้ แต่ประสบปัญหาเรื่องของนมแม่มีปริมาณน้อยทำให้ลูกช้างเจริญเติบโตไม่เต็มที่ และผิวหนังแห้งเหี่ยว จึงต้องใช้นมผงเด็กมาเสริม แต่เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงเนื่องจากลูกช้างกินนมวันละประมาณ 10-20 ลิตร จึงต้องประกาศรับบริจาค และมีการแชร์ในโลกโซเชียลจนมีผู้ใจบุญบริจาคให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายสัตวแพทย์ขจรพัฒน์ บุญประเสริฐ หัวหน้างานโรงพยาบาลช้างสาขาภาคใต้ฯ พร้อมด้วยควาญช้าง และเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจดูอาการของลูกช้างดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายในสวนป่า ภายในโรงพยาบาลช้าง สาขาภาคใต้ ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังเจ้าของได้นำมาฝากเลี้ยงไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่อายุได้ 22 วันแล้ว เบื้องต้น พบว่าอาการลูกช้างเริ่มมีอาการดีขึ้น ผิวหนังที่แห้งเหี่ยวเริ่มเต่งตึง ร่างกายเริ่มแข็งแรง และมีลักษณะร่าเริงเหมือนลูกช้างทั่วไป แต่สัตวแพทย์ยังต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากร่างกายไม่สมบูรณ์เหมือนลูกช้างปกติ เนื่องจากนมแม่มีปริมาณน้อย
นายสัตวแพทย์ขจรพัฒน์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องรับบริจาคนั้นเนื่องจากอยู่ในช่วงปิดงบประมาณ แต่มีเจ้าของช้างนำช้างท้องแรกเข้ามาพอดี สำหรับค่าใช้จ่ายค่านมผงแต่ละวันเฉลี่ยวันละประมาณ 1 พันบาท เพราะลูกช้างต้องกินนมวันละไม่ต่ำกว่า 3 มื้อ ตกวันละประมาณ 10-20 ลิตร นอกจากนี้ ปริมาณนมแม่ก็มีไม่เพียงพอ คาดว่าจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลช้างอีกประมาณ 2 เดือน ซึ่งหากใครต้องการบริจาคติดต่อได้ทีโรงพยาบาลช้างสาขาภาคใต้ จ.กระบี่ โทร.0-7565-6923 หรือเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาคลองท่อม หมายเลข 824-0-39629-1 ซึ่งหลังจากงบประมาณเข้ามาตามปกติภายในเดือนตุลาคมนี้ก็จะประกาศหยุดรับบริจาคต่อไป
