ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ไม่ควรพลาด งาน “Thailand Fruit Festival 2016” พบกับบุฟเฟต์ทุเรียน-ผลไม้หลากหลายชนิด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต และศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง นำมาเสิร์ฟนักท่องเที่ยว-ประชาชนถึงภูเก็ต
ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย.นี้ ที่บริเวณลานเดอะพอร์ท ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต และศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ร่วมกันจัดงาน “Thailand Fruit Festival 2016” ขึ้น ซึ่งเปิดงานอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) โดย นายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานเปิด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ใน จ.ภูเก็ต การค้าภายใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติให้ความสนใจร่วมซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก
สำหรับกิจกรรมภายในงานจัดให้มีการแสดง และจำหน่ายผลไม้สดจากสวน ผลไม้แปรรูป และสินค้านวัตกรรมผลไม้จากเกษตรกรโดยตรง และกิจกรรมที่สร้างความสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวภายในศูนย์การค้าจังซีลอนเป็นอย่างมาก คือ “มหกรรมบุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ตามฤดูกาล” โดยเฉพาะทุเรียนที่นำมาเสิร์ฟแบบไม่อั้น มะพร้าวน้ำหอม เงาะ ลองกอง รวมถึงขนมหวานที่ปรุงมาจากผลไม้ เช่น ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งสามารถเลือกรับประทานได้ไม่อั้นในราคาหัวละ 499 บาท เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
น.ส.ทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การจัดงาน “Thailand Fruit Festival 2016” ในครั้งนี้ ทางกรมการค้าภายใน จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ และรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทยให้ชาวไทย และต่างชาติได้รู้จักผลไม้ไทยมากขึ้น ว่า ผลไม้ของไทยมีความสด รสชาติอร่อย และสามารถนำมาปรุงเป็นอาคารคาวหวาน และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งจะทำให้สามารถเปิดตลาดต่างประเทศในอนาคตได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง ประกอบกับในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคมนี้ เป็นช่วงที่ผลไม้ของภาคใต้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และเหตุที่เลือกจังหวัดภูเก็ตนั้น เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก การจัดงานครั้งนี้ไม่ได้ตั้งเป้าหมายในเรื่องของรายได้ แต่ต้องการให้พี่น้องเกษตรกรสวนผลไม้ ได้นำผลผลิตออกมาจำหน่าย เนื่องจากเป็นงานส่งเสริม และประชาสัมพันธ์ จึงเพียงต้องการให้ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในวงกว้าง เพื่อประโยชน์ในการทำตลาดต่างประเทศในอนาคต การจัดงานนี้จึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นในการทำตลาดต่างประเทศ
ส่วนรูปแบบการช่วยเหลือเกษตรกรของกรมการค้าภายในจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ การนำเกษตรกรมาออกงานจัดแสดง และจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้บริโภค กับการช่วยเหลือเกษตรโดยตรง เมื่อมีผลผลิตก็จะจัดหาผู้ซื้อซึ่งเป็นพ่อค้าส่งมารับสินค้าไปกระจายต่อ หรือนำไปจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งปีนี้ผลผลิตมีราคาที่ค่อนข้างดี เนื่องจากปีที่ผ่านมา ค่อนข้างแล้ง และผลผลิตที่ออกค่อนข้างล่าช้า จึงเป็นผลดีต่อผลไม้หลายชนิด เช่น ทุเรียน ซึ่งไม่ต้องการน้ำมากนัก เป็นต้น