ตรัง - ทะเลตรังยังปั่นป่วนเพราะมีคลื่นลมแรง ส่งผลกระทบต่อเรือประมง เรือทัวร์ และร้านค้าริมชายหาด โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม คาดอีก 1 สัปดาห์สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง ว่า เมื่อช่วงตั้งแต่วันขึ้น 15 ค่ำที่ผ่านมา หรือที่ชาวประมงเรียกว่า ช่วงน้ำใหญ่ และยังเป็นช่วงที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังเปลี่ยนทิศทางเป็นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ จนส่งผลให้ฝั่งทะเลอันดามัน รวมทั้งทะเลตรังมีคลื่นลมแรงสูงกว่าในช่วงปกติประมาณ 2-3 เมตร ทำให้ไม่เหมาะต่อการออกทะเลของเรือขนาดเล็ก ซึ่งคาดว่าความรุนแรงของคลื่นลมจะลดลงในอีกประมาณ 7 วัน จึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ส่วนเรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก และเรือหางยาวบริการนักท่องเที่ยวต้องจอดเรียงรายในลำคลองหยงหลำ เพื่อหลบคลื่นลมที่รุนแรงในช่วงนี้ เพราะอาจจะสร้างความเสียหายแก่เรือ และอุปกรณ์ รวมทั้งเครื่องยนต์ได้ ซึ่งเรือประมงพื้นบ้านบางลำได้ใช้โอกาสนี้ยกขึ้นคานเพื่อทำการซ่อมแซม ส่วนเรือหางยาวก็ไม่สามารถออกไปให้บริการตามเกาะแก่งต่างๆ ได้ เพราะเกรงจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว
ขณะที่บริเวณชายหาดในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตั้งแต่หาดยาว หาดหยงหลิง หาดเจ้าไหม มาจนถึงหาดปากเมง ได้ถูกคลื่นลมแรงซัดชายหาดจนเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง โดยมีต้นสนล้มลงอย่างต่อเนื่อง และบางต้นมีรากโผล่ขึ้นมาเหนือผิวดิน เช่นเดียวกับร้านค้าบริเวณชายหาดปากเมง ก็ต้องย้ายที่ตั้ง และหนีห่างจากต้นสนที่เสี่ยงต่อการล้มลงมา รวมทั้งมีการเตือนห้ามนักท่องเที่ยวนั่งรับประทานอาหารใกล้ต้นสนเหล่านี้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวบริเวณชายหาดต่างๆ ใน จ.ตรัง ช่วงขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง และมักจะเดินทางมาเป็นครอบครัว หรือเป็นคณะ แต่ก็ทำได้แค่เพียงนั่งรับประทานอาหารริมชายหาดเท่านั้น เนื่องจากในท้องทะเลมีคลื่นลมแรงจนไม่เหมาะต่อการลงไปเล่นน้ำ นอกจากนั้น ยังมีแมงกะพรุนที่ลอยมากับคลื่นลมแรงบริเวณชายหาดอีกด้วย