พังงา - คลื่นลมแรงน้ำทะเลหนุนสูงไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน และกัดเซาะแนวชายหาดเสียหายระยะทางกว่า 17 กิโลเมตร ต.เกาะคอเขา จ.พังงา ชาวบ้านถือป้ายวอนนายกรัฐมนตรี เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาโดยด่วนก่อนที่จะทำให้บ้านลงไปอยู่ในทะเล
วันนี้ (20 ส.ค.) ในพื้นที่จังหวัดพังงา ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรง จากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณ หมู่ 3 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากคลื่นขนาดใหญ่ได้ซัดเข้าหาฝั่งจนไหลเข้าท่วมถนนเข้าหมู่บ้าน บริเวณรอบๆ บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมชายหาด มีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 7 ครัวเรือน กว่า 30 ชีวิต ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เนื่องจากมีอาชีพทำประมงพื้นบ้าน ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนแล้ว โดยน้ำทะเลที่ไหลเข้ามาได้กัดเซาะบ้านเรือนจากข้างใต้พื้นจนพื้นบ้านแตกร้าว ผนังบ้านเริ่มมีการทรุดอย่างเห็นได้ชัด ข้าวของเครื่องใช้ต้องยกไว้บนที่สูง แม้ว่าการที่น้ำทะเลซัดเข้ามาจะไม่นานจะมีแค่ประมาณ 4-5 วัน ในช่วงที่มีลมมรสุมพายุเข้ามาแต่ก็เป็นปัญหาทุกปีโดยที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้สักที ชาวบ้านปากเกาะ จึงอยากวิงวอนนายกรัฐมนตรี เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาช่วยเหลือโดยด่วน ก่อนที่คลื่นจะกัดเซาะจนทำให้บ้านเรือนลงไปอยู่ในทะเล
โดยเบื้องต้น ทางนายจักษุ ลิ่มพานิช นายก อบต.เกาะคอเขา นายสุดจิตร ลิ่มพานิช กำนันเกาะคอเขา นายนิวัฒ ส่งแร่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 เกาะคอเขา พร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ อบต.เกาะคอเขา ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังจากคลื่นขนาดใหญ่สูง 2-3 เมตร ซัดเข้าหาฝั่งกัดเซาะแนวชายหาดเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า ซึ่งคลื่นได้กัดเซาะชายเข้ามาถึงฝั่งประมาณ 80 เมตร ความยาว 17 กิโลเมตร จากชายหาดที่เคยทอดยาวลงในทะเล ส่งผลทำให้ต้นสน ต้นมะพร้าวจำนวนมากล้มลงในทะเลเป็นแนวยาว ซึ่งขณะนี้ทาง อบต.เกาะคอเขา ได้ทำโครงการปัญหาความเดือดของชาวบ้าน ส่งให้ทางจังหวัดพังงา เพื่อให้ช่วยกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยการทำแนวเขื่อนกั้นคลื่นบริเวณปากล่องน้ำเค็ม-เกาะคอเขา ต่อไป