พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ว่ามีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 32,637 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 9,130 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลลงอ่าง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จำนวน 20.30 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำใช้การได้ 540 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จำนวน 25.08 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำใช้การได้ 1,244 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จำนวน 7.87 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำใช้การได้ 353 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน 8.07 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำใช้การได้ 306 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ปัจจุบันทั้ง 4 เขื่อนหลัก มีน้ำใช้การได้ประมาณ 2,443 ล้านลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปริมาณมีน้ำดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่ง 33 เขื่อนหลัก มีน้ำใช้การได้ 9,113 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบปี 2558 มี 9,017 ล้านลูกบาศก์เมตร เน้นย้ำให้เฝ้าระวัง พยายามเก็บน้ำให้มากที่สุดช่วงฤดูที่เหลืออีก 3 เดือน จัดการบริหารอย่างใกล้ชิด โดยกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ปีนี้พายุเข้า 2 ลูก ช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งปริมาณน้ำฝนเพียงพอให้ปลูกข้าว 7.6 ล้านไร่ ลุ่มเจ้าพระยา และมีน้ำใช้สำหรับทุกกิจกรรมอย่างพอเพียงในฤดูแล้งปี 2560 ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำให้เพาะปลูกสูงกว่าปี 2558 โดยสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก มีน้ำเข้าสูงกว่าในรอบ 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปริมาณมีน้ำดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่ง 33 เขื่อนหลัก มีน้ำใช้การได้ 9,113 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบปี 2558 มี 9,017 ล้านลูกบาศก์เมตร เน้นย้ำให้เฝ้าระวัง พยายามเก็บน้ำให้มากที่สุดช่วงฤดูที่เหลืออีก 3 เดือน จัดการบริหารอย่างใกล้ชิด โดยกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ปีนี้พายุเข้า 2 ลูก ช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งปริมาณน้ำฝนเพียงพอให้ปลูกข้าว 7.6 ล้านไร่ ลุ่มเจ้าพระยา และมีน้ำใช้สำหรับทุกกิจกรรมอย่างพอเพียงในฤดูแล้งปี 2560 ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำให้เพาะปลูกสูงกว่าปี 2558 โดยสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก มีน้ำเข้าสูงกว่าในรอบ 3 ปี
