ตรัง - รอง ผวจ.ตรัง เตรียมยื่นถวายฎีกาและฟ้องศาลปกครอง อ้างมีการแต่งตั้งตำแหน่งผู้ว่าฯ อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ลั่นหากชนะพร้อมลาออกสร้างบรรทัดฐาน แต่หากแพ้พร้อมถูกสอบสวน ยืนยันไม่ได้ทำเพื่อตนเองแต่ทำเพื่อส่วนรวม
วันนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าฯ จ.ตรัง มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า จะมีการถวายฎีกา และฟ้องศาลปกครองในวันที่ 20 ก.ย.2559 นี้ กรณีเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งล่าสุดนี้ โดยระบุว่าตนมีความจำเป็นต้องทำ เนื่องจากเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล เกิดความไม่เป็นธรรมในการโยกย้าย และแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าว
โดยข้อความในโพสต์เขียนว่า ตนรับราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้มาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปี 2558 เป็นเวลา 12 ปี ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 ถึงเดือนกันยายน 2558 เป็นเวลา 3 ปี 8 เดือน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ให้นำอายุราชการทวีคูณมาคิดคำนวณด้วย ได้อายุราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา 7 ปี 4 เดือน ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง อีก 1 ปี รวม 8 ปี 4 เดือน ปีที่แล้วตนเอง และ นายอุดร น้อยทับทิม อาวุโสที่จะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาแต่ไม่แต่งตั้ง แล้วยังย้ายตนเองจากยะลา มาตรังโดยไม่มีเหตุผลอะไร เมื่อมีคำสั่งย้ายตนเองก็จะไปตามคำสั่ง โดยอ้างว่ามีผู้ใหญ่บางคนในกระทรวงรับปากว่าจะแต่งตั้งให้ตนดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ในปีถัดไป เพราะตนมีคุณสมบัติเหมาะสม อายุราชการ รอง ผวจ. 8 ปี 4 เดือน อาวุโสที่สุดในประเทศไทย ดำรงตำแหน่งรอง ผวจ.มาไม่เคยทุจริตคิดชั่ว ไม่เคยกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ไม่เคยมีปัญหาในพื้นที่กับข้าราชการ หรือประชาชน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง กระผมตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่เลือกงาน ทำทุกงาน วันหยุดไม่มี ปีนี้การแต่งตั้ง ผวจ. คนที่เป็นรองมา 2 ปี และ ไม่ถึง 2 ปี ได้รับการแต่งตั้งหลายคน และตนจะเกษียณปี 2560 อาวุโสอันดับ 1 (8 ปี 4 เดือน) และรับราชการมาตั้งแต่เจ้าหน้าที่ธุรการ 1 ไต่เต้ามาด้วยงานอย่างเดียวจนถึงปัจจุบัน และได้มีการถามท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็ได้รับคำตอบว่า คุณไม่มีปัญหาอะไร มีการเสนอแล้วตามหลักอาวุโสแต่ไม่ผ่านบอร์ด จากนั้นตนเองได้ปรึกษาท่านผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ทั้งอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด และตุลาการศาลปกครอง และได้รับคำแนะนำให้ตนฟ้องต่อศาลปกครอง ในส่วนของการถวายฎีกาก็ให้ทำไปพร้อมกัน เพราะการแต่งตั้ง ผวจ.ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ทั้งนี้ เพื่อรักษาระบบคุณธรรมไว้ให้หลงเหลืออยู่บ้าง ส่วนการถวายฎีกานั้นกระผมได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ที่คนในวงการมหาดไทยให้ความเคารพนับถือแม้ท่านจะเกษียณอายุราชการไปหลายปีแล้ว ท่านบอกว่าสมัยก่อนไม่เลวร้ายแบบนี้ สมัยนี้ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ ท่านสนับสนุนให้ตนดำเนินการทั้ง 2 กรณีโดยเร็วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.ตรัง โดยกล่าวยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง และที่ตนตัดสินใจถวายฎีกาในครั้งนี้เนื่องจากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนมีความอาวุโสมากที่สุดมีอายุราชการ 8 ปี 6 เดือนสำหรับการเป็นรองผู้ว่าฯ แต่ปรากฏสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบการเลื่อนขั้นตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย กลับใช้ระบบพรรคพวกเส้นสายไม่คำนึงถึงความเป็นธรรม โดยการตัดสินใจยื่นถวายฎีกาครั้งนี้ตนต้องการสร้างบรรทัดฐานให้กระทรวงมหาดไทย และไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่ตนทำเพื่อทุกคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมซึ่งมีอยู่หลายคน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ตรัง กำลังปั่นป่วนอย่างหนักหลังจาก นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ถูกคำสั่งด่วนให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ขณะที่ นายนิพันธ์ ศิริธร รองผู้ว่าฯ คนที่ 1 เกษียณอายุราชการ และนายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าฯ คนที่ 2 มีการเตรียมยื่นถวายฎีกา และฟ้องศาลปกครองดังกล่าว
