xs
xsm
sm
md
lg

ภรรยา “พีระ” ขอบคุณสังคมช่วยทวงความยุติธรรม หลังศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิต “อุทิศ ชูช่วย” (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พญ.พิชญา ตันติเศรณี ภรรยานายพีระ ตันติเศรณี (เสื้อดำ) พร้อมญาติๆ เดินทางมาฟังคำตัดสินของศาลฎีกา (ภาพ วันชัย พุทธทอง)
 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิต “อุทิศ ชูช่วย” พร้อมทีมฆ่า “พีระ ตันติเศรณี” อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา พร้อมจำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องหาอีก 2 ราย ด้านภรรยาอดีตนายกเล็กสงขลา ฝากให้คดีนี้เป็นเครื่องเตือนใจผู้มีอำนาจอย่าลุแก่ความต้องการของตัวเอง ขอบคุณสังคมที่ช่วยทวงความยุติธรรม

วันนี้ (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดสงขลา ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีนายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มเสียชีวิต โดยศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ ให้ประหารชีวิต “นายกต้อย” หรือนายอุทิศ ชูช่วย จำเลยที่ 5 พร้อมด้วย นายไพศาล หนูพันธ์ จำเลยที่ 1 นายฉ้วน หมวดมี จำเลยที่ 3 ส่วนนายกิตติ ชูช่วย จำเลยที่ 4 ผู้เป็นน้องชายของนายอุทิศ และนายสุดขีด จันทร์เขียว จำเลยที่ 7 ให้จำคุกตลอดชีวิต

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 7 พ.ย.2555 คนร้ายได้ใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงใส่นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา จนเสียชีวิตบริเวณหน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม เลขที่ 97 ถ.นครใน เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา
 
นายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต (แฟ้มภาพ)
 
หลังการสืบสวนสอบสวนพยานบุคคล และพยานวัตถุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายไพศาล หนูพันธุ์ นายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว และนายฉ้วน หมวดมี ซึ่งเป็นทีมมือปืน รวมทั้งนายกิตติ ชูช่วย น้องชายของนายอุทิศ ซึ่งเป็นผู้บงการ โดยทั้ง 4 คนได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจ

ต่อมา ในวันที่ 22 ม.ค.2556 ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้นำหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา พร้อมกำลังหน่วยสวาทแอดวานซ์ กว่า 50 นาย เข้าจับกุม นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) สงขลา ได้ที่บ้านพักเลขที่ 55/1 ถนนนาสาร เขตเทศบาลนครสงขลา ในข้อหาจ้างวานฆ่านายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา

อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาคดีนี้วันที่ 14 ส.ค.2557 ปรากฏว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง นายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา พร้อมพวกรวม 5 คน ทำให้ฝ่ายโจทก์ คือ อัยการจังหวัดสงขลา และนางมาลี ตันติเศรณี มารดาของนายพีระ ตันติเศรณี ต้องขอความเป็นธรรมจากศาลอุทธรณ์
 
ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุ (แฟมภาพ)
 
ต่อมา วันที่ 29 ต.ค.2558 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ตัดสินให้ประหารชีวิต นายอุทิศ ชูช่วย จำเลยที่ 5 พร้อมด้วย นายไพศาล หนูพันธ์ จำเลยที่ 1 นายฉ้วน หมวดมี จำเลยที่ 3 ส่วนนายกิตติ ชูช่วย จำเลยที่ 4 ผู้เป็นน้องชายของนายอุทิศ และนายสุดขีด จันทร์เขียว จำเลยที่ 7 ให้จำคุกตลอดชีวิต ซึ่งจำเลยทั้งหมดได้ขอยื่นประกันตัวเพื่อต่อสู้ในชั้นศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์คัดค้านการประกันตัว และส่งตัวไปควบคุมยังเรือนจำจังหวัดสงขลา จนกระทั่งวันนี้จึงมีคำพิพากษาจากศาลฎีกา ยืนตามคำตัดสินเดิมของศาลชั้นอุทธรณ์

สำหรับคดีนี้เป็นหนึ่งในคดีดัง และถือว่าอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นใน จ.สงขลา โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องต่อนักการเมืองที่มีสายสัมพันธ์โยงใยอยู่ในพรรคใหญ่ที่เป็นที่นิยมของคนภาคใต้ โดยเฉพาะครองใจผู้คนใน จ.สงขลา มายาวนาน จึงได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก

นายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา ที่เสียชีวิต และนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลา ซึ่งเคยนั่งในตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครสงขลามาก่อน ต่างก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงด้วยกันทั้งคู่ และที่สำคัญ เคยมีภาพเป็นเหมือนเพื่อนตายกันมาตั้งแต่สมัยใส่กางเกงขาสั้นชุดนักเรียน เมื่อเติบโตก็กลายมาเป็นคู่หูทางการเมืองกัน
 
ประชาชนจำนวนมากมาร่วมรดน้ำศพนายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา (แฟมภาพ)
 
โดยหลังจากที่ นายอุทิศ ผันตัวเองไปลงสมัครนายก อบจ.สงขลา และชนะการเลือกตั้ง ได้ผลักดันให้ นายพีระ ลงสมัครนายกเทศมนตรีนครสงขลา จนได้รับการเลือกตั้งเช่นกัน

แต่ทั้งคู่กลับกลายเป็นเป็นคู่แข่งทางการเมือง และถึงขั้นแตกหักกันในเรื่องของโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า ซึ่งเป็นโครงการของ นายอุทิศ ในฐานะนายก อบจ.สงขลา แต่ถูก นายพีระ ในฐานะนายกเทศมนตรีนครสงขลา เจ้าของพื้นที่ขัดขวาง

และหลังการตายของ นายพีระ นั้น นายอุทิศ ก็ต้องหยุดเส้นทางชีวิตบนถนนการเมืองของตัวเอง เนื่องจากในการเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา ครั้งล่าสุด ได้พ่ายแพ้ให้แก่ นายนิพนธ์ บุญญามณี ซึ่งก็เคยเป็นเพื่อนร่วมก๊วนเดียวกันที่ผันตัวเองจากสนามการเมืองระดับชาติลงมาสู่ระดับท้องถิ่น
 
ตำรวจควบคุมตัวนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลา ในข้อหาจ้างวานฆ่านายพีระ (แฟ้มภาพ)
 
อนึ่ง สำหรับคดีลอบสังหาร นายพีระ นั้น มีผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา สั่งฟ้องรวม 10 คน แต่ในชั้นอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 3 คน คือ นายปราโมทย์ แสงอรุณ นายณัฐพร นัคเร นายชยันต์ หนูพันธ์ และระหว่างการพิจารณาคดีมีจำเลยถูกยิงเสียชีวิต 2 คน คือ นายอธิป ด้วงมาก จำเลยที่ 2 และนายนิวัฒน์ รัตน์แก้ว จำเลยที่ 6 จึงเหลือจำเลยในคดีนี้เพียง 5 คน ซึ่งขณะนี้กำลังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดสงขลา

พญ.พิชญา ตันติเศรณี ภรรยาของนายพีระ ตันติเศรณี อดีตานายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลากล่าวว่า การตัดสินของศาลฎีกาเป็นไปตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทางญาติเราอยากจะขอขอบคุณตั้งแต่ตำรวจ ทีมพิสูจน์หลักฐานที่ได้ทำหลักฐานมาอย่างดี และขอบคุณทีมอัยการ ทีมทนาย ประชาชนชาวสงขลา และนักข่าวทุกคนที่มีส่วนช่วยกระตุ้น และผลักดันให้คดีนี้ได้เป็นไปตามความยุติธรรม ตามหลักฐานเป็นไปตามที่ควรจะเป็น

“คิดว่าคดีนี้อยากฝากให้เป็นเครื่องเตือนใจ เพราะว่าบางครั้งในการที่เราขึ้นสู่อำนาจแล้วเราไม่สามารถควบคุมไว้ได้ ถ้าเกิดเราลุแก่อำนาจ ลุแก่ความต้องการ ถึงที่สุดแล้วคิดว่าน่าจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีต่อไปในสังคมค่ะ สำหรับกรณีนี้คนที่ใช้อำนาจจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้” พญ.พิชญา กล่าว
 

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น