ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.ภาค 9 กำชับหัวหน้าสถานีวางมาตรการป้องกันย่านเศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยว ขณะที่ปลัดมหาดไทย สั่งผู้ว่าฯ ประชุมร่วมหามาตรการป้องกัน เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งาน ด้านนายก อบจ.สงขลา ชี้เป็นการลูบเขี้ยวเสือ
วันนี้ (12 ส.ค.) มีรายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ว่า พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง รก.ผบช.ภาค 9 ได้ลงนามในคำสั่งให้หัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่งตั้งด่านตรวจ และจุดสกัด และเพิ่มสายตรวจสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ประชาชนพลุกพล่าน สถานที่ราชการ และให้จัดเวรยาม เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้าย ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงในขณะนี้ได้
พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมน รอง ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า กองพิสูจน์หลักฐานกำลังลงพื้นที่ จ.ตรัง เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานจากเหตุระเบิด และไฟไหม้ใน จ.ตรัง จึงจะบอกได้ว่าเชื่อมโยงกลุ่มเดียวกับกลุ่มชายแดนภาคใต้ หรือเชื่อมโยงกับกลุ่มใด แต่น่าจะไม่ใช่เกิดจากความขัดแย้งของคนในพื้นที่ สั่งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังให้ตำรวจเพิ่มด่านตรวจ และจุดสกัดทุกพื้นที่เศรษฐกิจ และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานเมื่อเวลา 08.00 น. เกิดเหตุระเบิดที่ จ.ภูเก็ต จ.ตรัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไฟไหม้ จ.สุราษฎร์ธานี จ.กระบี่ และ จ.นครศรีธรรมราช แต่จะจากการเมือง หรือสถานการณ์ชายแดนใต้ขอเวลาตรวจสอบจากหลายฝ่ายก่อน แต่ทั้งหมดน่าจะเป็นการเชื่อมโยงกัน เพราะเกิดในเวลาไล่เลี่ย และคล้ายคลึงกัน
นายกฤษฎา เปิดเผยอีกว่า ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ประชุมหน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อหามาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ ย่านเศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยว และดูแลประชาชนให้มีความปลอดภัย ให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานด้วย
ทางด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้มีความเชื่อมโยงกันที่มีความจงใจในจังหวัดท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น เป็นการลูบเขี้ยวเสือมากกว่า แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ไม่เกินวิสัยของฝ่ายความมั่นคงในการหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นให้เร็วที่สุด