ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ใหญ่บ้านดอยปุยเผยกำลังปรึกษาหารือผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เตรียมดำเนินการตามกฎหมายเพื่อทวงความยุติธรรม กรณีนักท่องเที่ยวสาวต่างชาติกล่าวหาเด็กหญิงสองพี่น้องชาวม้งว่าเป็นผู้ขโมยนาฬิกาออกสื่อออนไลน์ต่างประเทศ หลังได้มีข้อมูลหลักฐานค่อนข้างชัดเจนยืนยันความบริสุทธิ์ของเด็กที่ถูกกล่าวหาอย่างไร้ความรับผิดชอบ จนได้รับผลกระทบอย่างมากหลายด้านโดยเฉพาะด้านสภาพจิตใจ
วันนี้ (5 ต.ค. 59) นายเมธาพันธ์ เฟื่องฟูกิจการ ผู้ใหญ่บ้านดอยปุย หมู่ที่ 11 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติกล่าวหาว่าเด็กหญิงสองคนซึ่งเป็นลูกสาวของราษฎรบ้านดอยปุยเป็นผู้ขโมยนาฬิกาไประหว่างถ่ายรูปที่ระลึกกับเด็กหญิงทั้งสองคนที่สวมใส่ชุดประจำเผ่าบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพ และมีการนำเสนอข่าวในสื่อต่างประเทศนั้น
จากการประสานกับเครือข่ายชาวม้งในต่างประเทศที่มีการกระจายตั้งรกรากอยู่หลายประเทศทั่วโลก เพื่อช่วยกันสืบค้นข้อมูลแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ล่าสุดได้ข้อมูลหลักฐานเป็นที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่านักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติคนดังกล่าวหานาฬิกาพบแล้ว โดยที่ไม่ได้ถูกขโมยตามที่มีการกล่าวอ้างและมีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กลับไม่ปรากฏว่ามีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อกรณีที่ได้มีการกล่าวหาเด็กหญิงสองพี่น้องชาวม้งว่าเป็นผู้ขโมยนาฬิกาไปเลย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ข่าวให้ผู้คนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง, การแสดงความเสียใจ หรือการขอโทษ ต่อเรื่องราวที่ทำให้คนเกิดความเข้าใจผิด
จากการกล่าวหาดังกล่าวของนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติรายนี้ นอกจากทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เสียหายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กหญิงชาวม้งทั้งสองคนเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของชาวเขาเผ่าม้งทั้งหมดด้วย
ทั้งนี้ นายเมธาพันธ์เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ว่า หากความจริงปรากฏเป็นที่ชัดเจนและมีหลักฐานยืนยันว่าเด็กหญิงชาวม้งทั้งสองคนไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด แต่เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหาอย่างเลื่อนลอยและไร้ความรับผิดชอบแล้ว
ในฐานะที่เป็นผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวจะสามารถดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้หรือไม่ อย่างไรบ้าง เช่น การแจ้งความดำเนินคดี หรือการฟ้องร้อง เป็นต้น เพื่อทวงคืนความถูกต้อง ความยุติธรรมและศักดิ์ศรีให้แก่เด็กหญิงชาวม้งทั้งสองคนและครอบครัว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลหลักฐานและน่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
