ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจเชียงใหม่เผยตรวจสอบย้อนหลังละเอียดยิบภาพกล้องวงจรปิดทั่ววัดพระธาตุดอยสุเทพ แต่ไร้เงานักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษที่กล่าวหาว่าสองเด็กหญิงชุดประจำเผ่าม้งขโมยนาฬิกา แถมเจ้าตัวยังปิดเฟซบุ๊กหนีอีกด้วย ระบุจนถึงตอนนี้เด็กหญิงทั้งสองคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันตามที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้หากรู้สึกได้รับความเสียหายและไม่ได้รับความยุติธรรมจากการนำเสนอข่าวของสื่อต่างประเทศสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้
วันนี้ (4 ต.ค. 59) พันตำรวจโท ธาดา ฐิตะปัญญา สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีที่เด็กหญิงสองพี่น้องชาวม้งดอยปุยถูกนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษกล่าวหาว่าขโมยนาฬิกาข้อมือไประหว่างถ่ายรูปที่ระลึกกับเด็กหญิงทั้งสองคนที่สวมใส่ชุดประจำเผ่าบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามอย่างเต็มที่และต่อเนื่องในการสืบหาข้อมูลเพื่อระบุตัวตนว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเป็นใคร รวมทั้งพยายามหาทางติดต่อกับนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวผ่านทุกช่องทางที่เป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ยังไม่มีข้อมูลของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวแม้แต่น้อย เพราะไม่ทราบวันเวลาแน่ชัดที่นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว และแม้แต่เฟซบุ๊กส่วนตัวของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวก็มีการปิดไปแล้ว หลังจากที่มีข่าวดังกล่าวนำเสนอออกไปและมีกระแสสังคมจำนวนมากไม่เชื่อว่าเด็กหญิงทั้งสองคนจะเป็นผู้ที่ขโมยนาฬิกาไปจริง
ขณะที่การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพอย่างละเอียดทั้งหมดแล้วแต่ก็ยังไม่พบภาพนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว รวมทั้งติดปัญหาอุปสรรคตรงที่ระบบฐานข้อมูลของกล้องวงจรปิดทั้งหมดทั่วบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพสามารถจัดเก็บข้อมูลภาพย้อนหลังได้เพียง 15 วันเท่านั้น ทำให้จนถึงเวลานี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันหรือประกอบการกล่าวหาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้
ทั้งนี้ สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ระบุว่า เบื้องต้นจนถึงเวลานี้ในส่วนของเด็กหญิงสองพี่น้องชาวม้งดอยปุยที่ถูกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยหากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับความเสียหายจากการนำเสนอข่าวของสื่อต่างประเทศ ก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ได้
นอกจากนี้ พันตำรวจโท ธาดาบอกว่า ขณะนี้มีการส่งต่อข้อมูลที่อ้างแหล่งที่มาจากต่างประเทศอ้างว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กล่าวหาเด็กหญิงชาวม้งหานาฬิกาพบแล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อถือข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใดเพราะเป็นข้อมูลที่ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน ทั้งนี้ โดยความเห็นส่วนตัวต่อกรณีที่เกิดขึ้นนั้นมองว่าคำกล่าวหาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างต่ำ เพราะหากเป็นความจริงโดยปกติน่าจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการแล้ว