ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพยืนยันยังคงอนุญาตให้เด็กชาวเขาแต่งชุดชนเผ่าถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวได้ตามปกติ หลังเกิดกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติที่อ้างว่าถูกเด็กขโมยนาฬิกา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุตัวตนของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้ และไม่ทราบว่าเข้าไปท่องเที่ยวเมื่อใด
จากกรณีที่สื่อออนไลน์ในประเทศอังกฤษมีการนำเสนอข่าวว่านักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายลงในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่ามาเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วถ่ายภาพกับเด็กผู้หญิงที่แต่งกายชุดชนเผ่าสองคน
ต่อมาปรากฏว่านาฬิกาข้อมือได้หายไป ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กหญิงทั้งสองคนที่ขโมยไป ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งล่าสุดมีข่าวว่าทางวัดพระธาตุดอยสุเทพได้สั่งห้ามเด็กแต่งชุดชนเผ่าถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวในบริเวณวัดแล้วนั้น
วันนี้ (29 ก.ย. 59) นายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ยืนยันว่า ทางวัดไม่ได้มีการห้ามดังกล่าวแต่อย่างใด โดยยังคงอนุญาตให้เด็กชาวเขาแต่งชุดชนเผ่าถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวได้ตามปกติ เพราะถือเป็นการแสดงให้เห็นวิถีชีวิต วัฒนธรรม และส่งเสริมบรรยากาศท่องเที่ยว
ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติที่อ้างว่าถูกขโมยนาฬิกานั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางวัดอยู่ คาดว่าน่าจะได้ความชัดเจนในเร็วๆ นี้
ด้าน พ.ต.ต.พิษณุ เตรียมดี สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กองกำกับการ 4 (เชียงใหม่) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติอ้างว่าถูกขโมยนาฬิกาขณะถ่ายภาพกับเด็กผู้หญิงที่แต่งกายชุดชนเผ่าสองคนบนวัดพระธาตุดอยสุเทพว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเป็นใคร ซึ่งจนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถระบุได้และยังไม่มีการแสดงตัว ส่วนการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเวลานี้อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่รอบบริเวณวัด ซึ่งต้องใช้เวลาทำงานบ้างเพราะไม่ทราบวันเวลาที่แน่ชัดว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเข้าไปท่องเที่ยวเมื่อใด แต่เชื่อมั่นว่าจะได้ความชัดเจนในที่สุด