เชียงใหม่ - ผู้ใหญ่บ้านดอยปุย เชียงใหม่ ขอความเป็นธรรมให้แก่เด็กสาวลูกบ้าน 2 คนที่ถูกสื่อต่างชาติตีข่าวไปทั่วโลกว่าเป็นขโมย ทำให้เด็กมีตราบาป ซึ่งไม่เป็นความจริง ด้านตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่เตรียมตามหาตัวนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (27 ก.ย.) นายเมธาพันธ์ เฟื่องฟูกิจการ ผู้ใหญ่บ้านดอยปุย บนดอยสุเทพเชียงใหม่ เข้าพบตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ที่สำนักงานสถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีมีสื่อต่างชาติลงภาพเด็กหญิงสองคน ซึ่งแต่งกายชุดชนเผ่า ในภาพมีมือของเด็กจับที่นาฬิกาข้อมือของนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษขณะยืนให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ
โดยเขียนว่าเด็กทั้งสองเป็นขโมยตีแผ่ไปทั่วโลก ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเป็นเพียงการหารายได้แลกกับเงินทิปในชุดแต่งกายชนเผ่าบริเวณเชิงบันไดวัดดอยสุเทพ เชียงใหม่ คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไม่เกิน 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นต้องขอความเป็นธรรมให้กับเด็กด้วย ซึ่งเด็กไม่มีโอกาสได้ชี้แจง และไม่ใช่เรื่องจริง ทำให้เด็กมีตราบาป จึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และชี้แจงให้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวจะมีการประสานนักท่องเที่ยวหญิงต่างชาติคนดังกล่าวหากยังอยู่ในประเทศมาสอบถามข้อมูลต่อไป
ด้านนายวัลลภ นามวงศ์พรหม ประชาสัมพันธ์วัดพระธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่ บอกว่า หากเป็นเรื่องจริง ทำไมนักท่องเที่ยวถึงไม่แจ้งความหรือดำเนินการ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งแต่ละวัน จะมีเด็กหญิงชนเผ่าประมาณกว่า 10 คนแต่งกายชุดชนเผ่าในการหารายได้จากนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปแลกกับเงินค่าทิปเท่านั้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ของวัดและของประเทศไทยเสื่อมเสียไปด้วย ฉะนั้นคงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในเรื่องนี้ให้กระจ่างชัดที่สุด
อย่างไรก็ตาม ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่แจ้งว่าได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ภาคเหนือ) สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูพิงคราชนิเวศน์ ได้สอบถามไปยังพ่อ-แม่ของเด็กทั้งสองว่าเด็กแต่งกายเป็นชนเผ่าถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวเพื่อหารายได้พิเศษช่วงหยุดโรงเรียน และจากการสอบถามพบว่าเด็กทั้งสองไม่มีนิสัยลักขโมยแต่อย่างใด
ขณะนี้ตำรวจท่องเที่ยวอยู่ในระหว่างติดตามตัวนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษเพื่อสอบถามข้อมูลในกรณีดังกล่าวต่อไป