ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอันดามัน ออกโรงแจงข้อข้องใจของสังคม ยืนยันวิ่งแน่ 100 คัน เร็วๆ นี้ หลังจดทะเบียนป้ายเหลืองเสร็จ พร้อมระบุชาวบ้านได้ประโยชน์เต็มๆ เตรียมนำเข้ามาอีกเพื่อยกมาตรฐานการบริการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 ส.ค.) บริเวณลานจอดรถบัส บริษัท โลเคิลบัส 30 ภูเก็ต จำกัด ข้างปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านเมืองใหม่ ถนนเทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายวิชัย เสี้ยมสอน อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอันดามัน พร้อมด้วยกรรมการสมาคม และผู้บริหารบริษัท โลเคิล บัส 30 ภูเก็ต จำกัด ประกอบด้วย นายสันติภาพ เสนะสุขุม นายวิพงศ์ มงคลบุตร นายจำนง สุนทร นายภูวดล คุ้มบ้าน และนายสุลัยมารฑ์ แก้วงามดี โฆษกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอันดามัน ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อสงสัยของสังคม
กรณีการนำรถบัส จำนวน 100 คัน เข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเดือนที่ผ่านมาตามโครงการ “เมืองน่าอยู่ ท่องเที่ยวปลอดภัย” ปรับเปลี่ยนรถบัสให้บริการนักท่องเที่ยวใหม่ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
นายสุลัยมารฑ์ กล่าวว่า การนำรถบัส 100 คันเข้ามาต้องตั้งบริษัท โลเคิลบัส 30 จำกัด ขึ้น เพื่อบริหารจัดการ และทำสัญญาจ้างงานกับทางบริษัท เจมส์แกลอรี่ เนื่องจากทางสมาคมฯ ไม่สามารถที่จะทำธุรกิจได้ โดยรถที่เข้ามานั้นเป็นของสมาชิกสมาคม คนที่จะซื้อรถได้ก็ต้องเป็นสมาชิกสามัญของทางสามคม และจองด้วยความสมัครใจ สมาชิก 1 คน สามารถจองรถได้เพียง 1 คันเท่านั้น
การดำเนินการดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือให้สมาชิกมีรถเป็นของตัวเอง ที่ผ่านมา ทางสามคมได้มีการออกมาต่อต้านไม่ให้นายทุนนำรถบัสจากนอกพื้นที่เข้ามาวิ่ง รวมทั้งไม่ให้นายทุนทำรถเองโดยการจ้างชาวบ้านไปขับ จึงได้เจรจาต่อรองกับทางผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อให้ออกสัญญาจ้างงานให้แก่สมาชิกเพื่อนำไปกู้เงินจากไฟแนนซ์ในการจัดซื้อรถ แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องของการค้ำประกัน
ในส่วนของชาวบ้านเองต้องยอมรับว่าไม่มีทรัพย์สินที่จะเข้ามาค้ำประกันเพื่อให้ธนาคารปล่อยกู้ ทางสมาคมจึงต้องไปหาบริษัทมาช้อนซื้อรถแทนชาวบ้าน ทำให้รถ 1 คัน จะต้องมีการเซ็นสัญญาใน 3 ส่วน คือ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ มี 2 ส่วนคือ บริษัทไฟแนนซ์ และบริษัทที่เข้ามาช้อนซื้อคือ บริษัท คีแมน ส่วนที่ 3 คือ ผู้ครอบครองรถ ซึ่งก็คือชาวบ้าน
สำหรับสัญญาเช่ารถทั้ง 100 คันนั้น ทาง เจมส์แกลอรี่ ทำสัญญาเช่า 5 ปี จ่ายเงินค่าเช่าเดือนละ 78,000 บาทต่อคัน โดยในจำนวนนี้ทางบริษัทจะต้องโอนเงิน 75,000 บาท เพื่อจ่ายเป็นค่าผ่อนรถให้กับไฟแนนซ์ และอีก 5,000 บาท ให้แก่ผู้ครอบครองรถ ซึ่งราคานี้ยังไม่ร่วมค่าน้ำมัน ที่ทางผู้เช่าจะต้องจ่ายอีกเดือนละประมาณ 30,000 บาท นอกจากนั้น คนขับรถยังจะได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงในการขับรถอีก 1,000 บาท ยังไม่ร่วมค่าทิปจากแขกที่จะได้รับ ซึ่งมั่นใจได้ว่าในแต่ละเดือนเจ้าของรถจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 40,000 บาท และที่สำคัญเมื่อรถครบ 6 ปี เจ้าของจะได้รับการโอนรถมาเป็นของตัวเองอย่างแน่นอน
ในสัญญาเช่ารถนั้นได้มีการพุดคุยในรายละเอียดถึงการบริหารจัดการรถหลังจากหมดสัญญาไว้แล้ว ซึ่งทางบริษัทก็ยินดีที่จะเช่ารถต่อจากเจ้าของรถ ถ้าตรวจแล้วรถมีสภาพที่พร้อมจะใช้งาน เพราะรถแต่ละคันมีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปี
นายสุลัยมารฑ์ กล่าวต่อไปว่า การนำรถเข้ามาในครั้งนี้ทางสมาคมทำเพื่อต้องการยกระดับการบริการด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งยกระดับคนขับรถให้มีคุณภาพ และการบริการที่ดีขึ้น รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน ที่ผ่านมา มีการอบรมคนขับรถไปแล้ว 2 ครั้ง และวันที่ 30 ส.ค.นี้จะมีการอบรมอีกครั้ง
นอกจากนั้น สิ่งที่มีการเน้นย้ำคือ เรื่องของการตรวจหาสารเสพติดจากคนขับรถ และแอลกอฮอล์จะต้องเป็นศูนย์ ส่วนกรณีที่รถเข้ามานานแล้วทำไมยังวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยว จริงๆ แล้วทางชาวบ้านเองก็พร้อมที่จะวิ่งแต่เราต้องการการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขอจดทะเบียนเป็นป้ายเหลือง คิดว่าก่อนไฮซีซันนี้รถทั้ง 100 คัน จะต้องออกมาวิ่งอย่างแน่นอน
แต่ปัจจุบันนี้ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของรถต่างก็หวาดผวาเนื่องจากมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มมีพฤติกรรมออกแนวข่มขู่ด้วยการมาเบิ้ลรถเสียงดัง มีเสียงคล้ายปืนดังในช่วงกลางคืน จึงต้องออกมานอนเฝ้าระวังรถกันเอง เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นซึ่งขณะนี้ได้มีการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อทางตำรวจภูธรถลาง ไว้แล้ว
ส่วนเรื่องของคุณภาพรถที่นำมาใช้ ขอยืนยันว่า เป็นรถที่มีมาตรฐานความปลอดภัยอย่างแน่นอน ในการเจรจาซื้อรถจากบริษัทซันลอง พบว่า ทางบริษัทให้ส่วนลด และข้อเสนอที่ดีมากจึงตัดสินใจซื้อรถเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตกแต่งภายใน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก การทำประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี รถทุกคันติด GPS มีกล้องวงจรปิดซึ่งสามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้ ยืนยันว่ารถได้มาตรฐานอย่างแน่นอน ซึ่งมีการส่งไปตรวจที่ขนส่งแล้วด้วย และนอกจากรถที่ซื้อมา 100 คัน ก่อนหน้านี้ก็มีรถรุ่นนี้วิ่งให้บริการในภูเก็ตแล้วหลายคัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางสมาคมมีแผนที่จะนำรถเข้ามาในพื้นที่อีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้สมาชิกได้มีโอกาสเป็นเจ้าของรถ และเพื่อยกระดับการบริการด้านการท่องเที่ยว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องของสัญญาเช่ารถกับบริษัทในพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ากำลังคุยกับบริษัทใด
ส่วนกรณีรถเก่าของทางสมาชิกนั้นยังสามารถวิ่งงานได้เหมือนเดิม เพียงแต่จะต้องปรับปรุงให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด โดยขณะนี้รถของสมาชิกมีอยู่แล้วประมาณ 700-800 คัน บางส่วนมีการปรับปรุงแล้ว และบางส่วนกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ