นราธิวาส - ตร.ชุดคลี่คลายคดีเร่งแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 3 จุด หลังคนร้ายขับรถขนส่งนมที่ดักปล้นใน จ.ปัตตานี นำมาประกอบคาร์บอมบ์ใช้ป่วนที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส พร้อมทยอยเรียกพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำควบคู่
สำหรับความคืบหน้ากรณีคนร้ายขับรถยนต์กระบะแบบตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บฉ 1426 ปัตตานี ที่ได้บุกปล้นหน้าโรงเรียนบ้านชะเมาสามต้น ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา และคนร้ายได้ใช้เป็นพาหนะในการซุกระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม น้ำหนักประมาณ 80-100 กิโลกรัม แล้วนำมาจอดไว้ที่ริมกำแพงรั้วข้างบ้านพักของ พ.ต.อ.สุธาเวชช์ ธารีไทย ผกก.สภ.แว้ง เหตุเกิดในช่วงเช้าเวลา 06.30 น. ของวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (3 ก.ย.) จากการแกะรอยภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด จำนวน 3 จุด ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีของ สภ.แว้ง ภายใต้การนำของ ร.ต.อ.ทรงวุฒิ ทองสม รองสารวัตรสอบสวน พบว่า รถยนต์กระบะคันดังกล่าวจุดแรกขับผ่านจุดตรวจกามาเกะ ขับตรงมาประมาณ 50 เมตร ผ่านจุดที่ 2 ข้ามสะพานเข้าเขตเทศบาลตำบลแว้ง แล้วขับตรงมาประมาณ 100 เมตร เลี้ยวซ้ายที่บริเวณตลาด 3 แยก แล้วขับตรงไปประมาณ 40 เมตร เลี้ยวขวามาจอดข้างกำแพงรั้วข้างบ้านพักของผู้กำกับ สภ.แว้ง ซึ่งเป็นจุดที่ 3 ที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ เมื่อรถยนต์ที่ประกอบคาร์บอมบ์จอดทิ้งไว้ในพื้นที่เป้าหมาย คนร้ายอีก 1 คน ซึ่งขับตามหลังมาได้มาจอดที่บริเวณสี่แยกเพื่อรอรับคนร้ายที่ขับรถยนต์กระบะคาร์บอมบ์ มานั่งซ้อนท้าย จากนั้นจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีสวนกลับไปทางเดิม
โดยจากการประมวลภาพจากวงจรปิดทั้ง 3 จุด เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้นำไปวิเคราะห์กับข้อมูลที่ได้รับแจ้งเบาะแสการแจ้งเตือนมาจากพลเมืองดี ว่า ในคืนวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่คนร้ายจะก่อเหตุ 1 วัน รถยนต์กระบะคันดังกล่าวคนร้ายได้นำมาจอดทิ้งไว้ที่บ้านของสมาชิกแนวร่วมหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านตือมายู ม.1 ต.เอราวัณ อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยภายในรถได้นำระเบิดแสวงเครื่องหนักประมาณ 80-100 กิโลกรัม ซุกไว้เรียบร้อยแล้ว โดยคนร้ายมีเป้าหมายที่จะนำแฝงและขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.แว้ง ที่ใดที่หนึ่งแล้วแต่โอกาสจะอำนวย
จนกระทั่งในช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. คนร้ายได้ตัดสินใจขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาก่อเหตุเป้าหมายในพื้นที่ อ.แว้ง ที่คาดว่าคนร้ายที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์มารับคนร้ายที่ขับคาร์บอมบ์ ได้มาสำรวจเป้าหมายแล้วเป็นการล่วงหน้า และได้ประสานให้คนร้ายที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะคาร์บอมบ์ขับออกมาจากหมู่บ้านตือมายู โดยใช้เส้นทางถนน 4 เลนตัดใหม่ เลี้ยวขวาที่ข้าง อบต.กายูคละ อ.แว้ง ขับตรงมาออกที่บริเวณ 3 แยก สายบูเก๊ะตา-แว้ง เลี้ยวขวาผ่านกล้องวงจรปิดทั้ง 3 ตัว ที่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวยังไม่เปิดใช้เป็นทางการจึงไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด จึงเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดในการแฝงตัวเข้าก่อเหตุในครั้งนี้
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมทยอยเรียกพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำ ควบคู่กับการนำภาพ 2 คนร้าย ที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้นั้น แต่ไม่ค่อยชัดเจนมากนักไปให้ผู้เชี่ยวชาญทำภาพให้เกิดความคมชัด เพื่อนำภาพบุคคลทั้ง 2 ไปเทียบเคียงกับแฟ้มบุคคลที่ก่อคดีความมั่นคงว่าเป็นใคร แต่ในเบื้องต้นคาดว่า คนร้ายกลุ่มนี้เป็นคนในพื้นที่ อ.แว้ง และ อ.สุไหงปาดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องขอเวลาทำงานอีกสักระยะ