ปัตตานี - ศูนย์สุขภาพชุมชนปะกาฮารังยังคงให้บริการประชาชนตามปกติ มีประชาชน และอาสาสมัครเดินทางให้กำลังใจ ภายหลังจากคนร้ายนำรถของศูนย์ฯ ใช้เป็นคาร์บอมบ์ที่โรงแรมเซาท์เทิร์นวิวที่ผ่านมา
วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รายงานบรรยากาศบริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังจากเหตุคาร์บอมบ์บริเวณหน้าโรงแรมเซาท์เทิรน์วิว อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 39 ราย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2559 ที่ผ่านมา โดยได้มีกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลปะกาฮะรัง รวมทั้งช่วยทำความสะอาดบริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.ปะกาฮะรัง ขณะที่เจ้าหน้าที่บางคนยังคงทำงานบริการประชาชนอย่างต่อเนื่องเป็นปกติ บางคนทยอยเดินทางให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่
ทางด้านบุคลากรสาธารณสุขรายหนึ่ง กล่าวว่า หลังจากคนร้ายขโมยรถจากศูนย์สุขภาพฯ ไปก่อเหตุคาร์บอมบ์โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว โดยคนร้ายขโมยมาจากบริเวณบ้านของเจ้าหน้าที่ขับรถคันดังกล่าวที่จอดไว้ใต้สะพานตะลุโบ๊ะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนถูกเชิญตัวเพื่อให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงกันทุกคน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของเจ้าหน้าที่ทุกคนของศูนย์ฯ จึงได้ไปตามคำเชิญของหน่วยความมั่นคง สิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ และไม่คาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดเหตุนี้ขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ล้วนแต่อยากให้บริการประชาชนในการรับส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาล เพื่อให้คนไข้เข้าถึงหมอ และแพทย์ โดยไม่คิดค่าตอบแทนจากคนไข้เลย
จึงอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้วย เราทำงานอยู่กับประชาชน ต้องเดินลงพื้นที่อยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน ก็ไม่อยากให้ข้อมูลอะไรที่อาจจะกระทบต่อบางคน แค่นี้เราก็ทำงานลำบากขึ้นแล้ว จึงอยากให้เข้าใจเรื่องรถยนต์ที่มีการกล่าวถึงว่า ทางสาธารณสุขได้สั่งทำเป็นพิเศษนั้น เบื้องต้น ไม่ทราบข้อมูลเพราะทางนี้ได้แต่ขอเบิกมา แล้วก็ใช้งานตามจำเป็น ไม่ทราบเรื่องติดตั้งระบบพิเศษ ส่วนตัวมองว่ารถรุ่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการสั่งทำเป็นพิเศษขนาดนั้นได้
น.ส.เพชรจันทร์ ภูครองทุ่ง อสม.ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่หลังจากทราบข่าวว่า เกิดเหตุการณ์คาร์บอมบ์ คนร้ายได้นำรถของโรงพยาบาลไปก่อเหตุ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคนถูกฝ่ายความมั่นคงเชิญตัวไปสอบปากคำ จึงอยากมาให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกคนไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่เหลือ 1 คนที่ยังบริการประชาชน ผู้ป่วยมารับบริการ เราจึงมาให้กำลังใจ และอยู่เป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่
ทางด้านเจ้าหน้าที่ อสม.ที่มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งได้มีการพูดคุยกันว่า ไม่เชื่อที่รถจะมีการสั่งทำเป็นพิเศษได้ เพราะที่ผ่านมา บุคคลสาธารณสุขเป็นกลุ่มงานที่ดูแลประชาชน ไม่ได้คิดว่าจะมีคนร้ายมาประสงค์ร้ายต่อเจ้าหน้าที่ หรือบุคลากร จึงไม่ต้องสั่งทำเป็นพิเศษเพราะไม่เคยเกิดขึ้น แต่หลังจากนี้คิดว่าไม่แน่อาจจะต้องทำระบบขึ้นมาจริงๆ ตามที่มีการพูดถึงก็เป็นได้ เพื่อเฝ้าระวัง และป้องกันการทำแบบนี้ได้อีก
