ชุมพร - นายก อบต.นำชาวบ้านร้องทหารใช้ ม.44 ยึดคืนพื้นที่สร้างธารณะเอกชนเตรียมขอใช้สร้างท่าเรือน้ำลึก เผยนายทุนเข้าบุกรุกสร้างคฤหาสน์หลังใหญ่โต มูลค่าร่วม 100 ล้านบนชายหาด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ห้องประชุม อบต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร นายภรดร ศรีชลธาร นายก อบต.ปากคลอง นายประกิต แข่งขัน รองนายก อบต.ปากคลอง นายทรงสิทธิ์ พุ่มศรี รองนายก อบต.ปากคลอง นายสุจินต์ นามวงศ์ แกนนำ พร้อมชาวบ้านหมู่ 3 บ้านอ่าวทุ่งทราย ตำบลปากคลอง เกือบ 100 คน เข้าร่วมประชุมประชาคมผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะอ่าวทุ่งทราย โดยการทำประชาคมดังกล่าว พล ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผู้บังคับการมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 44 ชุมพร ได้สั่งการให้ พ.ต.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารฝ่ายยุทธการ พ.ต.สังคม รองมาลี นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน กองบัญชาการควบคุม มทบ.44 ชุมพร นำกำลังพลเข้าร่วมสังเกตการณ์รับฟังข้อมูลด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 ชุมพร เกี่ยวกับกรณีนายทุน นักธุรกิจเข้ามาบุกรุกยึดครองพื้นที่สาธารณะอ่าวทุ่งทราย เพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกให้แก่บริษัทโรงงานถลุงเหล็กแห่งหนึ่ง โดยการวิ่งเต้นให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการรังวัดที่ดินเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินสาธารณะให้เป็นที่ดิน นสล. หรือหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เพื่อจะขอเช่าใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ และที่ผ่านมา มีการหลอกชาวบ้านให้เข้าร่วมประชุมลงชื่อทำประชาคมหมู่บ้านสนับสนุน และที่ประชุมสภา อบต.ในยุคสมัยนั้นได้มีมติสนับสนุนเห็นชอบด้วย ซึ่งมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไม่ชอบมาพากล
นอกจากนี้ ในพื้นที่ดังกล่าวปัจจุบันได้มีนักธุรกิจชื่อดังจากกรุงเทพฯ รายหนึ่งเข้ามายึดครองปลูกสร้างคฤหาสน์เป็นอาณาจักรใหญ่โตมูลค่าร่วม 100 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ใกล้กับพื้นที่สร้างท่าเรือน้ำลึก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในที่ดินดังกล่าวกลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ทำให้ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านต้องร้องเรียนให้ทหารยุค คสช.เข้าไปตรวจสอบใช้มาตรา 44 ยึดกลับคืนมาเป็นของแผ่นดินต่อไป
ด้าน นายภรดร ศรีชลธาร นายก อบตปากคลอง กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดมานานนับ 10 ปี ตั้งแต่สมัยที่ตนยังไม่ได้เป็นนายก อบต. เมื่อมาถึงยุคตน เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมสภา อบต. ในที่ประชุมมีมติว่า พื้นที่อ่าวทุ่งทรายดังกล่าวจะไม่ให้เอกชนมาขอใช้สร้างท่าเรือนำลึก เนื่องจากเป็นพื้นที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ จะต้องอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบล สำหรับการทำประชาคมครั้งนี้ที่ต้องมีทหารเข้ามาร่วมรับฟังด้วยนั้น เพราะที่ผ่านมา ประชาชนไม่สามารถพึ่งพาใครได้ ยุค คสช.ทหารเป็นที่พึ่งของพวกเราที่จะสามารถยึดคืนที่ดินดังกล่าวกลับคืนมาเป็นของแผ่นดินได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับที่ดินสาธารณะบริเวณอ่าวทุ่งทรายดังกล่าว จากข้อมูลของทหารที่ได้ลงตรวจสอบในทางลับก่อนหน้านี้ เบื้องตนพบว่า มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 565 ไร่ ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกสร้างท่าเรือน้ำลึกประมาณ 101 ไร่ และมีนักธุรกิจตระกูลดังเข้ามายึดครองสร้างคฤหาสน์ใหญ่โตอยู่ใกล้ชายหาด และกันรั้วมิดชิดห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปอย่างเด็ดขาด รวมเนื้อที่อีกเกือบ 40 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวบหลักฐาน และประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องลงตรวจสอบเพื่อยึดกลับคืน ซึ่งความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ห้องประชุม อบต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร นายภรดร ศรีชลธาร นายก อบต.ปากคลอง นายประกิต แข่งขัน รองนายก อบต.ปากคลอง นายทรงสิทธิ์ พุ่มศรี รองนายก อบต.ปากคลอง นายสุจินต์ นามวงศ์ แกนนำ พร้อมชาวบ้านหมู่ 3 บ้านอ่าวทุ่งทราย ตำบลปากคลอง เกือบ 100 คน เข้าร่วมประชุมประชาคมผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะอ่าวทุ่งทราย โดยการทำประชาคมดังกล่าว พล ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผู้บังคับการมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 44 ชุมพร ได้สั่งการให้ พ.ต.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารฝ่ายยุทธการ พ.ต.สังคม รองมาลี นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน กองบัญชาการควบคุม มทบ.44 ชุมพร นำกำลังพลเข้าร่วมสังเกตการณ์รับฟังข้อมูลด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 ชุมพร เกี่ยวกับกรณีนายทุน นักธุรกิจเข้ามาบุกรุกยึดครองพื้นที่สาธารณะอ่าวทุ่งทราย เพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกให้แก่บริษัทโรงงานถลุงเหล็กแห่งหนึ่ง โดยการวิ่งเต้นให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการรังวัดที่ดินเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินสาธารณะให้เป็นที่ดิน นสล. หรือหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เพื่อจะขอเช่าใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ และที่ผ่านมา มีการหลอกชาวบ้านให้เข้าร่วมประชุมลงชื่อทำประชาคมหมู่บ้านสนับสนุน และที่ประชุมสภา อบต.ในยุคสมัยนั้นได้มีมติสนับสนุนเห็นชอบด้วย ซึ่งมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไม่ชอบมาพากล
นอกจากนี้ ในพื้นที่ดังกล่าวปัจจุบันได้มีนักธุรกิจชื่อดังจากกรุงเทพฯ รายหนึ่งเข้ามายึดครองปลูกสร้างคฤหาสน์เป็นอาณาจักรใหญ่โตมูลค่าร่วม 100 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ใกล้กับพื้นที่สร้างท่าเรือน้ำลึก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในที่ดินดังกล่าวกลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ทำให้ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านต้องร้องเรียนให้ทหารยุค คสช.เข้าไปตรวจสอบใช้มาตรา 44 ยึดกลับคืนมาเป็นของแผ่นดินต่อไป
ด้าน นายภรดร ศรีชลธาร นายก อบตปากคลอง กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดมานานนับ 10 ปี ตั้งแต่สมัยที่ตนยังไม่ได้เป็นนายก อบต. เมื่อมาถึงยุคตน เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมสภา อบต. ในที่ประชุมมีมติว่า พื้นที่อ่าวทุ่งทรายดังกล่าวจะไม่ให้เอกชนมาขอใช้สร้างท่าเรือนำลึก เนื่องจากเป็นพื้นที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ จะต้องอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของตำบล สำหรับการทำประชาคมครั้งนี้ที่ต้องมีทหารเข้ามาร่วมรับฟังด้วยนั้น เพราะที่ผ่านมา ประชาชนไม่สามารถพึ่งพาใครได้ ยุค คสช.ทหารเป็นที่พึ่งของพวกเราที่จะสามารถยึดคืนที่ดินดังกล่าวกลับคืนมาเป็นของแผ่นดินได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับที่ดินสาธารณะบริเวณอ่าวทุ่งทรายดังกล่าว จากข้อมูลของทหารที่ได้ลงตรวจสอบในทางลับก่อนหน้านี้ เบื้องตนพบว่า มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 565 ไร่ ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกสร้างท่าเรือน้ำลึกประมาณ 101 ไร่ และมีนักธุรกิจตระกูลดังเข้ามายึดครองสร้างคฤหาสน์ใหญ่โตอยู่ใกล้ชายหาด และกันรั้วมิดชิดห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปอย่างเด็ดขาด รวมเนื้อที่อีกเกือบ 40 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวบหลักฐาน และประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องลงตรวจสอบเพื่อยึดกลับคืน ซึ่งความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป