ตรัง - นักเคลื่อนไหวชื่อดังที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิดกลางเมืองตรัง ยืนยันช่วงเกิดเหตุวุ่นวายตนอยู่ที่บ้าน และสวนยาง โดยมีพยานรู้เห็นชัดเจน ก่อนเผยตนไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยเฉพาะกลุ่ม นปช. ยอมรับหนักใจถูกทหารควบคุมตัว
วันนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประพาส โรจน์พิทักษ์ อายุ 67 ปี ซึ่งถูกทหารควบคุมไปสอบสวนยังกองทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ตนถูกเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวขณะกำลังนอนดูทีวีอยู่ที่บ้าน พร้อมทั้งนำหลักฐานเป็นโทรศัพท์ ไอแพด สมุดธนาคาร หนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง สมุดไดอารีบันทึก รวมทั้งบัตรประชาชน และเอกสารต่างๆ ก่อนเชิญมายัง สภ.เมืองตรัง ส่วนรายละเอียดตนยังไม่ทราบแต่อย่างใด มีเพียงการบันทึกประจำวัน แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ
ดังนั้น เรื่องนี้ตนต้องร้องขอความเป็นธรรมให้สืบสวนสอบสวนให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง และเบื้องต้น ได้ให้การปฏิเสธไป เพราะที่ผ่านมา ตนมีการทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคพวก ไปมาหาสู่กัน ไม่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพียงแต่มีแนวความคิดที่แลกเปลี่ยนกันเป็นปกติธรรมดา พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ นปช. เพราะเคยดำรงตำแหน่งคณะอดีตกรรมาธิการวิสามัญร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 อีกทั้งยังทำประโยชน์ให้แก่เครือข่ายองค์กรชาวบ้านอีกหลายอย่างด้วย
นายประพาส กล่าวอีกว่า ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ นั้นตนอยู่ที่บ้าน เนื่องจากไม่สบาย และจะไปพบหมอ แต่คลินิกกลับปิด โดยมีญาติเป็นพยานได้ จากนั้นได้เข้าไปในสวนยางพารา และมีพยานเช่นกัน พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้มีความหนักใจที่ต้องมาถูกควบคุมตัว
สำหรับ นายประพาส เคยบวชเรียนเป็นพระที่วัดโคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง หลังจากลาสิกขาจึงเดินทางขึ้นมาอยู่ในกรุงเทพฯ ยึดอาชีพทำหนังสือพิมพ์ในทีมของ นายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี และอดีตกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่ภายหลังแยกตัวมาทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาล และมีส่วนกำหนดนโยบาย 66/2523 ในยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นผู้นำกองทัพ และเป็นนายกฯ
ต่อมาเมื่อ นายประเสริฐ เสียชีวิต นายประพาส จึงกลับบ้านเกิดที่ จ.ตรัง เพื่อแต่งงาน และร่วมกิจกรรมทำงานภาคประชาสังคมมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับนักการเมือง นอกจากจะมีการร้องขอให้คำปรึกษาการเมืองเป็นครั้งคราว กระทั่งเมื่อพรรคพวกเพื่อนสนิทเปิดศูนย์พรรคความหวังใหม่ เขาจึงมารับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค สาขาตรัง ก่อนยุติบทบาทในเวลาต่อมา ทั้งนี้ นายประพาส ถือเป็นนักสันติวิธี มีอัธยาศัยไมตรีจิตที่ดี และพูดคุยกันได้ทุกกลุ่ม ทุกพรรคการเมือง แม้แต่พรรคเพื่อไทย