xs
xsm
sm
md
lg

พบศพโฟร์แมนเสียชีวิตในถังน้ำ คาดแพ้ยาแล้ววูบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ระนอง - พบหนุ่มโฟร์แมนชาวสุราษฎร์ธานี นอนเสียชีวิตอยู่ในถังน้ำขนาด 200 ลิตร ภายในบ้านเช่าที่จังหวัดระนอง ตำรวจคาดน่าจะมีอาการแพ้ยาแล้ววูบคว่ำหน้าลงไปในถังน้ำจนขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตในที่สุด 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (13 ส.ค.) พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองระนอง ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.วิทยา ศรีถม ร้อยเวร พงส.สภ.เมืองระนอง ว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านเช่า เลขที่150/56 ม.3 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ว่า พบศพผู้เสียชีวิต จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่า ภายในห้องน้ำพบศพผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย สภาพศพไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า เสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้าลงอยู่ในถังน้ำ 200 ลิตร สีน้ำเงิน ภายในถังมีน้ำอยู่ครึ่งถัง

จากการสอบถามเพื่อนร่วมห้องเช่าให้การว่า ตนชื่อ นายวิชัยริษ ทับทิมเดิม ทำงานเป็นวิศวกรของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่มารับเหมางานก่อสร้างในพื้นที่ อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งก่อนหน้าวันที่เกิดเหตุตนได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดกระบี่ตั้งแต่วันพุทธที่ผ่านมา และตอนช่วงเช้ามืดวันนี้ตนได้เดินทางกลับมาระนอง เพื่อเคลียร์งานที่บริษัท และได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อผู้ตายอยู่หลายสายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งช่วงสายประมาณ 10.30 น. ได้เดินทางมาถึงบ้านเช่าหลังดังกล่าวพบผู้ตายจมน้ำเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าของบ้านเช่า เพื่อจะได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตออกมาจากถังน้ำ ตามร่างกายยังไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย ทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายวัลลภ บุญมาก อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/28 ถ.วัดโพธิ์ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตภายในห้องพัก พบกระเป๋าเสื้อผ้า 2 ใบ กระเป๋าสะพาย 1 ใบ และกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรเครดิต นอกจากนี้ ยังพบยาแก้ปวดลดไข้อยู่บริเวณใกล้ที่นอนภายในห้องเช่าด้วย

พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองระนอง กล่าวว่า สันนิษฐานเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม เพราะผู้ตายไม่มีบาดแผลตามร่างกาย และคาดว่าผู้ตายน่าจะมีอาการแพ้ยาจนมีอาการเบลอ และเกิดลงไปแช่ในถังน้ำอาบจนขาดอากาศหายใจ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำศพส่งไปทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมจะดำเนินการติดต่อญาติผู้เสียชีวิตให้รับทราบต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น