ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ผู้คร่ำหวอดด้านความมั่นคงแผ่นดินด้ามขวานชี้ เหตุป่วนบ้านเมืองทั้งวางบึ้ม และวางเพลิงสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินในหลายจังหวัดภาคใต้เวลานี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเชื่อมโยงกับไฟใต้ ชี้ “บีอาร์เอ็น” ขยายเขตปฏิบัติการสู่เมืองท่องเที่ยวให้เห็นมานับปีแล้ว
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด และก่อการวางเพลิงในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคใต้ อีกทั้งยังเกี่ยวเนื่องไปถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วง 2 วันมานี้ด้วยนั้น “MGR Online ภาคใต้” ได้สอบถามไปยังแหล่งข่าวที่คร่ำหวอดด้านความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้รับคำอธิบายว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการท้าทายอำนาจรัฐ โดยพุ่งเป้าไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายหลังการทำประชามติผ่านร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงแน่นอน
จากการประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น เป็นไปได้อย่างยิ่งว่ากลุ่มผู้ก่อการสร้างสถานการณ์ในครั้งนี้น่าจะมีความเชื่อมโยงต่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเป็นเหตุการณ์ที่พัวพันต่อผู้ก่อการไฟใต้เนื่องจากมีเสียงเตือนออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้
ในช่วงที่ผ่านๆ มาขบวนการก่อการร้ายที่ยึดโยงอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ ก็ได้แสดงศักยภาพให้เห็นมาอย่างต่อเนื่องว่า กลุ่มพวกเขาสามารถที่จะปฏิบัติการนอกพื้นที่อย่างได้ผลมาแล้ว โดยเฉพาะกับเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ เช่น สมุย สะเดา ภูเก็ต หรือแม้แต่กระทั่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย
“มีเสียงเตือนว่าขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับว่านำปฏิบัติการในพื้นที่ไฟใต้อยู่ในเวลานี้จะเปิดแนวรุกในเดือน ส.ค.นี้ เนื่องจากเป็นเดือนที่มีวันสัญลักษณ์ทั้งของฝ่ายตรงข้ามรัฐไทยมากมาย กรณีการเสียชีวิตของหะยีสุหลง โต๊ะมีนา ซึ่งเป็นวีรบุรุษของฝ่ายเขาก็อยู่ในเดือนนี้ ไม่เพียงเท่านั้นเดือน ส.ค.ยังมีวันสัญลักษณ์ของรัฐไทยที่สำคัญๆ อยู่ด้วย”
ความประสงค์ของการเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ผู้กุมบังเหียนอำนาจรัฐไทยลดความแข็งกร้าว แล้วยินยอมที่จะกลับสู่การเปิดโต๊ะเจรจาสันติภาพกันอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมา คณะรัฐบาลทหารไม่ค่อยจะให้ความสำคัญในเรื่องการเจรจา หรือการตั้งโต๊ะพูดคุยสันติสุข ที่ใช้ความพยายามลดทอนความสำคัญลงแม้กระทั่งชื่อเรียก อีกทั้งที่ผ่านๆ มา คู่เจรจาฝ่ายไทยที่นำโดยทหารก็แสดงท่าทีไม่ยอมรับข้อเสนอของกลุ่มมาราปัตตานี รวมถึงกลุ่มอื่นๆ ก่อนหน้านี้ด้วย
“เราลองไล่เรียงดูนพว่า ช่วงวัน 2 วันนี้เกิดเหตุที่ไหนบ้างและอย่างไร ประเด็นแรกสถานที่เกิดเหตุล้วนเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก และมีชื่อเสียงของแผ่นดินด้ามขวาน เริ่มจากระเบิดแหล่งชอปปิ้งกลางเมืองตรัง ตามด้วยย่านบาร์เบียร์ที่เมืองหัวหิน ที่เมืองสุราษฎร์ธานี ที่เมืองภูเก็ต และที่เมืองชุมพร อีกทั้งมีการลอบวางเพลิงก็ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และย่านเศรษฐกิจสำคัญของเมือง ไม่ว่าจะที่ห้างกลางเมืองตรัง ที่อ่าวนางของกระบี่ ที่เขาหลักของพังงา บางพื้นที่เป็นสำนักงานที่ตั้งของบริษัททัวร์ของชาวต่างชาติ บางพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ นี่คือการเลือกจุดที่จะส่งผลสะเทือนได้นั่นเอง”
นอกจากนี้แล้ว แหล่งข่าวคนเดิมยังสรุปด้วยว่า ความจริงแล้วกลุ่มปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งเวลานี้นำโดยขบวนการบีอาร์เอ็นนั้น ได้ส่งสัญญาณมานับปีแล้วว่า การที่พวกเขาจะปฏิบัติการอยู่แต่เฉพาะในพื้นที่ชายแดนใต้ เงื่อนไขที่จะนำไปต่อรองกับรัฐไทยค่อนข้างที่จะแผ่วเบาลงเรื่อยๆ ดังนั้น การเปิดปฏิบัติการในเมืองท่องเที่ยว หรือหัวเมืองเศรษฐกิจหลักๆ นอกชายแดนใต้ต่างหากที่น่าจะได้ผลมากกว่า อันจะทำให้รัฐไทยยินยอมเหลียวหลังกลับมาหัวหน้าคุยกัน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไปยังแหล่งข้อมูลหลายกระแส เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ว่า เป็นไปได้ที่หลายๆ ฝ่ายที่ยืนอยู่ตรงข้ามคณะผู้กุมอำนาจรัฐจะร่วมกันรุมยำ ด้วยการสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนไปทั่ว ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังวันลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะคำถามพ่วงที่ผ่านการยอมรับให้คณะทหารสามารถยึดโยงอำนาจรัฐได้อีกหลายปี หรืออย่างน้อย 2 สมัยของการเลือกตั้งปกติ และที่สำคัญที่เลือกสร้างสถานการณ์ในเวลานี้ เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว ซึ่งการเตรียมรับสถานการณ์ของฝ่ายรัฐไม่ดีเท่าที่ควร
