ตรัง - ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ยืนยันระเบิดตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ ไม่ใช่ก่อการร้าย เพราะมีหลักฐานระบุค่อนข้างชัด วอนสื่อออนไลน์อย่าขยายความสับสน ขณะที่ญาติเหยื่อที่เสียชีวิตวอนขอเยียวยา
วันนี้ (12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.คุณวุฒิ หมอแก้ว รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่ต้องให้เวลาแก่เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่จะต้องงานร่วมกันหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อน แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างแน่นอน
ด้าน พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่อยากจะสรุปอะไร แต่ชิ้นส่วนที่เจอมีพอสมควร ทั้งโทรศัพท์ ทิชชู และอื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นระบุได้ว่า ระเบิดมีการประกอบก่อนนำมาวาง แต่เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบ เพราะจากการตรวจสอบมีวิธีการ และเงื่อนเวลา รวมถึงความแรงของระเบิดมีไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัดแล้วจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ
ส่วนกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นขณะนี้ ทั้งการโพสต์ และแชร์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ร่วมถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เพราะอาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จ.ตรัง แต่เท่าที่ตรวจสอบสามารถระบุได้ว่า เหตุการณ์นี้อาจจะมีความขัดแย้งบางส่วน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นส่วนใดบ้าง แต่เชื่อได้ว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความมั่นคงแต่อย่างใด
ส่วน นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า พรุ่งนี้จะมีการเชิญตัวแทนพ่อค้าแม่ค้ามาพูดคุยหารือถึงแนวทางการบริหารจัดการตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ ส่วนจะต้องปิดตลาดแห่งนี้เป็นการชั่วคราวหรือไม่นั้น ต้องมีการประเมินสถานการณ์ก่อน
เวลา 20.30 น. นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจแก่ญาติและผู้บาดเจ็บที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตรัง จำนวน 4 คน และได้เสียชีวิต 1 คน คือ จ่าเอกพิเชิด วิริยานุภาพพงษ์ โดยขณะที่ผู้ว่าฯ กำลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บอยู่นั้น ปรากฏว่า มีญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบมาสอบถามถึงการเยียวยาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ว่าฯ ก็กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องให้ทางตำรวจทำงานหาผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้ก่อน หากสุดท้ายยังไม่สามารถหาผู้กระทำความผิดก็ค่อยมาพิจารณากันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ตรัง ไม่เหมือนกับจังหวัดชายแดนใต้ ฉะนั้น ทางราชการไม่มีระเบียบการเยียวยาในส่วนนี้ แต่ก็จะมีหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานอื่นๆ จะร่วมพิจารณาเรื่องเยียวยาร่วมกันอีกครั้ง
ด้าน นายสุจิน ทองคำแท้ ญาติของ จ.อ.พิเชิด ผู้ที่เสียชีวิตในครั้งนี้ กล่าวว่า อยากให้ทางการหาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตโดยด่วน เพราะได้รับผลกระทบโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เนื่องจากคนหาเช้ากินค่ำ แต่กลับต้องมาเสียชีวิตลงอย่างน่าเสียใจ ทั้งๆ ที่ยังมีลูกอีก 2 คนที่กำลังเรียน จึงอยากจะขอความเห็นใจด้วย