xs
xsm
sm
md
lg

เจาะชีวิตกว่าจะเป็นดาว “น้องแนน” นักยกลูกเหล็กเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2016

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชุมพร - เจาะเส้นทางชีวิต “น้องแนน” เด็กหญิงลูกสาวชาวสวนจากชนบทจังหวัดชุมพร กว่าจะเป็นดาว ก่อนคว้าเหรียญทองนักยกน้ำหนักกีฬาโอลิมปิก 2016 จนสร้างชื่อเสียงระดับโลก

“น้องแนน” สู้สู้สู้ เสียงดังกระหึ่มกึกก้องไปทั่วทั้งหมู่บ้านในช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 สิงหาคม 2559 โดยมีชาวบ้าน บุคคลสำคัญทั้งข้าราชการ นักการเมือง ผู้นำท้องถิ่น มานั่งเชียร์ลุ้นหน้าจอโทรทัศน์ LED จอยักษ์ขนาด 300 นิ้ว กันอย่างใจจดใจจ่อ และเป็นกำลังใจให้แก่ นางสรารัตน์ ธนสาร อายุ 48 ปี มารดาของ “น้องแนน” น.ส.โสภิตา ธนสาร อายุ 22 ปี นักกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 48 กิโลกรัม ทีมชาติไทย ที่กำลังแข่งขันชิงเหรียญทอง ณ กรุงริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล จนสามารถคว้าเหรียญทองมาคล้องคอ และเป็นของขวัญให้แก่คนไทยทั้งประเทศได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องดีใจของชาวบ้านที่มาร่วมเชียร์ร่วมลุ้นกับครอบครัวของ “น้องแนน” ที่บ้านเลขที่ 69/6 หมู่ที่ 8 ตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังเล็กๆ อยู่ติดถนนลูกรังในหมู่บ้าน ส่วนหลังบ้านเป็นสวนปาล์ม เนื้อที่รวมทั้งหมด 5 ไร่ ที่คึกคักแน่นขนัดไปด้วยผู้คน

“น้องแนน” โสภิตา ธนสาร จากเด็กหญิงชนบทบ้านนอกลูกชาวสวนธรรมดาๆ คนหนึ่งจากจังหวัดชุมพร ปีนี้เธออายุ 22 ปี เจ้าของเหรียญทองกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 48 กิโลกรัม โอลิมปิก 2016 ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นเหรียญทองเหรียญแรกของกองทัพนักกีฬาไทยที่เริ่มจากการแข่งขันในครั้งนี้ จากเด็กหญิงบ้านนอกครอบครัวทำสวนปาล์ม และรับจ้างทั่วไปส่งเสียให้เธอก้าวมาสู่ความสำเร็จเป็นฮีโร่ของคนไทยทั้งประเทศได้อย่างไร

นางสรารัตน์ ธนสาร อายุ 48 ปี “ป้าแดง” หรือ “ป้าสาว” ที่ชาวบ้านในละแวกนั้นจะเรียกขานกันตามความถนัดปาก ผู้เป็นมารดาของ “น้องแนน” น.ส.โสภิตา ธนสาร นักกีฬายกน้ำหนัก เจ้าของเหรียญทองกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล มาหมาดๆ ได้บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางชีวิตของ “น้องแนน” ลูกสาวผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่จังหวัดชุมพร และประเทศไทย ว่า ครอบคัวตนมีลูก 3 คน “น้องแนน” เป็นลูกสาวคนโต “น้องแนน” โสภิตา ธนสาร ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2537 ลูกสาวคนกลางชื่อ น.ส.อภิชญา ธนสาร อายุ 18 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนสวีวิทยา และน้องชายคนสุดท้องชื่อ ด.ช.สุภิรักษ์ ธนศาร อายุ 14 ปี เรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านค่ายลูกเสืออำเภอสวี

ในวัยเด็ก “น้องแนน” เรียนหนังสือชั้น ป.1-ป.6 ที่โรงเรียนบ้านค่ายลูกเสืออำเภอสวี อยู่ห่างจากบ้านตนประมาณ 2 กิโลเมตร “น้องแนน” เรียนหนังสือปานกลาง แต่ถ้าเป็นวิชาพลศึกษาจะได้เกรด 4 มาตลอด ช่วงวัยเด็กจะซนวิ่งเล่นปีนป่ายต้นไม้นิสัยคล้ายเด็กผู้ชาย และเป็นที่รักของเพื่อนๆ เป็นเด็กไม่ดื้อเชื่อฟังพ่อแม่ เลี้ยงง่ายอยู่ง่ายกินง่ายตามประสาเด็กบ้านนอกชนบททั่วๆไป

ชีวิตเด็กหญิงบ้านนอกจากจังหวัดชุมพร เข้าสู่เมืองหลวงกรุงเทพมหานคร โดยผู้เป็นลุงซึ่งเป็นพี่ชายของ “ป้าแดง” ชื่อ นายชาญณรงค์ มูลศักดิ์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาตำบล (ส.อบต.) หมู่ 8 ตำบลวิสัยใต้ เห็นแววหลานสาวที่กล้าแกร่งมีแววความเป็นนักกีฬา หลังจบชั้น ป.6 ที่โรงเรียนบ้านเกิด จึงพา “น้องแนน” หลานสาวไปอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ แล้วเข้าเรียนที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ระหว่างเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ม.1-ม.3 พ่อแม่ต้องเก็บหอมรอมริมจากการทำสวนปาล์ม และรับจ้างทั่วไปส่งเสียค่าใช้จ่าย จนกระทั่งมาเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.4-ม.6 ได้แข่งขันกีฬาให้แก่โรงเรียนจนเริ่มมีชื่อเสียงได้เงินรางวัลมาใช้จ่ายเลี้ยงตัวเองได้ และส่วนหนึ่งส่งกลับมาให้พ่อแม่เก็บไว้

หลังจบ ม.6 โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ได้เข้าศึกษาต่อที่สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตกรุงเทพมหานคร ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เป็นคนมีระเบียบวินัย และตระเวนแข่งขันชนะคว้าเหรียญรางวัลต่างๆ ทั้งในระดับชาติ และระดับเอเชียมามากมาย ส่งให้ “น้องแนน” ได้รับเลือกเข้าร่วมเป็นนักกีฬาทีมชาติ ในปี พ.ศ.2553 พร้อมฝึกซ้อมอย่างหนัก เดินสายแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ มีผลงานดีมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเป็นตัวแทนทีมชาติไทยลงแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก ในกีฬาโอลิมปิก 2016 เป็นครั้งแรก สามารถคว้าชัยชนะเหรียญทอง พร้อมเสียงเพลงชาติไทยดังกระทึ่มในระดับโลก และเงินอัดฉีดจากภาครัฐ ภาคเอกชนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เส้นทางชีวิตที่ต้องฟันฝ่าอดทดมาอย่างยาวนานส่งให้เธอกลายเป็นเศรษฐีของประเทศไทยภายในไม่กี่นาที

แม้วันนี้ลูกสาวจะได้เป็นฮีโร่ เป็นเศรษฐีคนใหม่ของประเทศไทยไปแล้วก็ตาม นางสรารัตน์ ธนสาร “ป้าแดง” มารดาของ “น้องแนน” กล่าวถึงชีวิตของตนเองนับจากนี้ไปว่ายังคงยึดอาชีพทำสวนปาล์ม และรับจ้างทั่วไปอยู่เหมือนเดิม เพราะอาชีพเหล่านี้ได้สร้างอนาคตให้แก่ครอบครัวของเรา ตอนนี้ครอบครัวตนที่ จ.ชุมพร อยู่รวมกันทั้งหมด 5 คน มีพ่ออายุ 83 ปี แม่ อายุ 80 ปี และลูกสาวกับลูกชายอีก 2 คน ตนในฐานะหัวหน้าครอบครัวต้องรับผิดชอบดูแล ส่วนสามีตนคือ นายสุรศักดิ์ ธนสาร อายุ 38 ปี ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปี 2555 ชีวิตที่ผ่านมา ตนจะสอนลูกๆ ทั้ง 3 คนอยู่เสมอว่า เราต้องอยู่อย่างพอเพียงนะลูก เราต้องเข้มแข็งขยันอดทน และเป็นคนดี สิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมให้เราได้ดี โดย “น้องแนน” เป็นลูกคนโต แม้จะไม่ค่อยได้เจอกันแต่ก็จะโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยให้กำลังใจกันเกือบทุกวัน เพราะตนจะเป็นได้ทั้งเพื่อน ทั้งพ่อและแม่ ทำให้ลูกๆ ทุกคนปรึกษากับตนได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะ “น้องแนน” หากมีปัญหาหรือต้องการคำแนะนำก็จะโทรศัพท์มาปรึกษาตนตลอดเวลา “ถึงแม้ “น้องแนน” จะเป็นคนมีชื่อเสียงเกียรติยศ และทรัพย์สินเงินทองที่ได้รับมา ตนก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ยังเป็นแม่ของลูกที่ใช้ชีวิตเหมือนเดิม และบอกกับลูกเสมอว่า แม่ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าให้ลูกเป็นคนดีเท่านั้นก็พอแล้ว” แม่น้องแนน กล่าว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น