ปัตตานี - ผู้ว่าฯ ปัตตานี นำคณะจิตอาสา และภาคประชาชนท่องเที่ยวแหลมตาชี “อัญมณีแห่งทะเลอ่าวไทย” ที่หาดตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เผยจุดเด่นมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และตกได้ในจุดเดียวกัน เตรียมผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่
วันนี้ (1 ส.ค.) นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำคณะจิตอาสาจากทุกภาคส่วน และประชาชน จำนวน 300 คน ขึ้นเรือจากท่าเรือเทศบาลเมืองปัตตานี เพื่อไปเยี่ยมชม “แหลมตาชี” ซึ่งตั้งอยู่ที่หาดตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีก 1 แห่ง ที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และตกได้ในจุดเดียวกัน โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เตรียมพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง ภายใต้คำขวัญ “อัญมณีแห่งทะเลอ่าวไทย”
นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด แหลมตาชี หนึ่งเดียวของประเทศที่สามารถเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นและดวงอาทิตย์ตกได้ ณ จุดเดียวกัน และเป็นแหลมที่มีความยาวที่สุดของประเทศไทย ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสากลที่จะเนรมิตให้มีที่พักตากอากาศ ห้องประชุมกลางทะเล พื้นที่อาบแดด ห้องอาหาร การละเล่นต่างๆ ไม่ให้แพ้ที่อื่น และเป็นสากล เพื่อดึงดูดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศเข้ามายัง จ.ปัตตานี ซึ่งจะเป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ให้แก่ชาวปัตตานี โดยพื้นที่ทั้ง 900 กว่าไร่ จะมีการทำเป็นโซนนิ่งเพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว 100% โดยจะมีการประสานไปยังหน่วยความมั่นคงดูแลโดยรอบแหลมตาชีแห่งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว
สำหรับจุดเด่นของแหลมตาชี หรือแหลมโพธิ์ เป็นหาดทรายขาวยื่นต่อจากหาดตะโละกาโปร์ ไปในทะเลอ่าวไทยทางทิศเหนือยาว 11 กิโลเมตร ถือว่าเป็นแหลมที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นป่าสนทะเล หาดทรายขาวสะอาด เหมาะสำหรับตากอากาศ และเล่นน้ำทะเล ลักษณะภูมิประเทศเป็นแหลม จึงมีทะเลทั้ง 2 ด้าน โดยด้านที่ติดกับแผ่นดินปัตตานี เรียกว่า “ทะเลใน” การเดินทางไปแหลมตาชีไปได้ 2 ทาง คือ ทางน้ำ นั่งเรือจากปากแม่น้ำปัตตานี ตรงไปยังแหลมตาชีได้เลย ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ นั่งเรือจากท่าด่านอำเภอยะหริ่ง ออกมาตามคลองยามู จนถึงทะเลในไปจนถึงแหลมตาชี และทางบก จากอำเภอยะหริ่ง ข้ามคลองยามูมาตามสะพานไม้ มีถนนตัดเข้าไปประมาณ 10 กิโลเมตร จนถึงหมู่บ้านที่ 2 ต.ตะโละกาโปร์ และนั่งเรือหางยาวต่อไปจนถึงปลายแหลม
