ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะทำงานกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ เดินทางมาตรวจให้คะแนนเรือนจำจังหวัดภูเก็ต และเปิดหอเกียรติยศหรือบันทึกประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ และเป็นสิ่งเตือนใจของการเปลี่ยนแปลงให้ยั่งยืน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (25 ก.ค.) ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.อ.ทิวะพร ชะนะพะเนาว์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.อ.วสันต์ สุริยมงคล ประธานคณะกรรมการตัดสินการประกวดการจัดระเบียบเรือนจำ/ทัณฑสถาน และคณะจากกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ เดินทางมาตรวจให้คะแนนเรือนจำจังหวัดภูเก็ต และเปิดหอเกียรติยศ หรือบันทึกประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ และเป็นสิ่งเตือนใจของการเปลี่ยนแปลงให้ยั่งยืน อันเป็นการร่วมจารึกผลงานทั้งหมดไว้ในหอเกียรติยศ โดยมี นายพิชิต วรรณจิตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่เรือนจำ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สืบเนื่องจาก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบนโยบายการบริหารงานราชทัณฑ์ที่สำคัญ คือ 5 ก้าวย่างแห่งการเปลี่ยนแปลงราชทัณฑ์ ประกอบด้วย 1.การควบคุมปราบปรามยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้าม 2.การจัดระเบียบเรือนจำ 3.การฝึกวินัยผู้ต้องขัง 4.การพัฒนาจิตใจด้วยหลักสูตรสัคคสาสมสมาธิ 5.การการยอมรับจากสังคม
สำหรับเรือนจำจังหวัดภูเก็ต โดย นายพิชิต วรรณจิตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ได้มีการสนองนโยบายดังกล่าวด้วยหลักการที่ว่า “ภูเก็ต เรือนจำสะอาด” มีการกำหนดมาตรการตรวจค้นบุคคลเข้าออกอย่างเข้มงวด มีการจู่โจมตรวจค้นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นประจำทุกเดือน ทำให้ได้รับประกาศเป็นเรือนจำสีขาว ปราศจากสิ่งของต้องห้าม ยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือ และได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณยกย่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต 2 ปีซ้อน เป็นหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นด้านการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งได้ดำเนินการจัดระเบียบทั้งภายใน และภายนอกเรือนจำ ตั้งแต่การจัดระเบียบสัมภาระผู้ต้องขัง จัดระเบียบเรือนนอน การแต่งกายของผู้ต้องขังที่สะอาดถูกต้องตามระเบียบ มีห้องน้ำห้องสุขาสะอาดถูกสุขลักษณะ รวมถึงการจัดสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งภายใน และภายนอก และจัดสถานที่เยี่ยมญาติให้มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย และสวยงาม โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังทุกคนเป็นอย่างดี พร้อมทั้งได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นหน่วยงานผู้ดำเนินกิจกรรมภูเก็ตยั่งยืน สำนักงานน่ามอง บ้านพักน่าอยู่ดีเด่น ประจำปี 2559
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการฝึกวินัยผู้ต้องขังเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ปรับเปลี่ยนพฤตินิสัยที่เคยอยู่อย่างไร้ระเบียบวินัยนอกเรือนจำ จนทำให้เกิดการผิดพลาด มีการจัดระเบียบด้านการแต่งกาย ตัดผม โกนหนวดเครา มีเสื้อผ้าไม่เกินคนละ 5 ชุด ให้นั่ง เดิน นอน เป็นแถวเป็นแนวถูกต้องตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ การจัดวางรองเท้าอย่างเป็นระเบียบหน้าเรือนนอน จัดให้ผู้ต้องขังได้มีส่วนร่วมในการประกอบพิธีต่างๆ มีการสวดมนต์ไหว้พระก่อนขึ้นเรือนนอน จัดให้ผู้ต้องขังได้มีส่วนร่วมในการประกอบพิธีต่างๆ มีการสวดมนต์ไหว้พระก่อนขึ้นเรือนอ นและก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลของการฝึกระเบียบวินัยผู้ต้องขัง มีการจัดโครงการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขัง หลักสูตรสัคคสาสมสมาธิ ตามแนวทางพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยัง สิรินโธ) เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการฟื้นฟูพัฒนาจิตใจ สร้างคุณค่าทางด้านคุณธรรม สร้างความรักความเมตตา สร้างปัญญา สร้างพลังความอดทน โดยได้เริ่มดำเนินการมาแล้ว จำนวน 5 รุ่นๆ ละ 250 คน และจะดำเนินการต่อไป อีกทั้งได้จัดให้มีกิจกรรมที่เหมาะสมในทุกศาสนาเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของผู้ต้องขังด้วย
สำหรับผลการดำเนินการมาทั้งหมดเป็นที่ยอมรับจากกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ประกอบกับในปีงบประมาณ 2559 กรมราชทัณฑ์ ได้จัดให้มีการประกวดการจัดระเบียบเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นกลุ่มเรือนจำที่มีผู้บริหาร (ผู้บัญชาการเรือนจำ) เป็นผู้อำนวยการระดับสูง ซึ่งเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการที่มีนายมณฑล ศรีกระจิบ ผู้ตรวจราชการกรมฯ เป็นประธานในรอบแรก อย่างไรก็ตาม เรือนจำจังหวัดภูเก็ต มีผู้ต้องขังชาย จำนวน 1,949 คน และผู้ต้องขังหญิง จำนวน 407 คน รวมทั้งหมด 2,356 คน