พระนครศรีอยุธยา - กรมราชทัณฑ์ เดินหน้านำหลัก “พระธรรมมงคลญาณ” มาเป็นแนวทางปฏิบัติให้ผู้ต้องขังได้ฝึกพัฒนาจิตใจ พร้อมกลับตัวเป็นคนใหม่ก่อนออกสู่สังคมภายนอก
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ รองอธิดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังด้วย “หลักสูตรสัคคสาสมาธิ” ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกรมราชทัณฑ์ และสถาบันพลังจิตตานุภาพ เพื่อส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้ผู้ต้องขังกลับตัวเป็นคนดี มีคุณค่าต่อสังคม
นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ รองอธิดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวส่วนหนึ่งของการพัฒนาจิตใจให้แก่ผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้สั่งการให้มีการดำเนินการทั่วประเทศ โดยเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะได้จัดโครงการพัฒนาจิตใจให้แก่ผู้ต้องขัง ทั้งชาย และหญิงที่ขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้นกว่า 2,800 คน โดยจะแบ่งออกเป็น 7 รุ่น รุ่นละ 400 คน มีระยะเวลาดำเนินการอบรมรุ่นละ 1 เดือน
โดยให้ผู้ต้องขังฝึกจิตตนเองด้วยการปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรมบรรยาย และเรียนรู้พระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ตามแนวทางพระธรรมมงคลญาณ ของหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมคล กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการฝึกสมาธิสมัยใหม่ ถูกคิดขึ้นมาให้เป็นแนวปฏิบัติสำหรับผู้ต้องขังโดยเฉพาะ เป็นการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้ผู้ต้องขังได้พัฒนาพฤตินิสัย คิดแต่สิ่งดี แล้วกลับออกไปเป็นคนดีของสังคม โดยตั้งเป้าจะให้โครงการดังกล่าวประสบผลสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์
รองอธิดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้หลังจากได้ดำเนินโครงการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังด้วย “หลักสูตรสัคคสาสมาธิ” จนเสร็จสิ้นแล้วก็จะดำเนินการพัฒนาผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดหลักสูตร “มัคนายก” ให้ผู้ต้องขังได้ฝึกการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม เพื่อให้ผู้ต้องขังได้มีอาชีพ และเป็นที่ยอมรับของสังคมเมื่อกลับสู่สังคมภายนอกแล้วอีกด้วย