วันนี้ (3 ส.ค.) นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนางพรพิตร นรภูมิพิภัชน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ รองผู้บัญชาการกองทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 พล.ต.ต.ชฏิล พรหมไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พิษณุโลก นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และฝ่ายพลเรือน สนธิกำลังจำนวนกว่า 400 นาย เข้าตรวจค้นเรือนจำกลางพิษณุโลกตามนโยบายของ คสช. เพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำทั้ง 5 แดน ซึ่งมีนักโทษ 2,840 คน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นละเอียดถี่ถ้วน มีการรื้อพื้นไม้ปาเก้ และตรวจสอบห้องน้ำแต่ละห้อง ปรากฏว่าพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ รวม 58 เครื่อง โดยเฉพาะไอโฟน 5 สภาพใหม่ 5 เครื่อง ซัมซุงโน๊ต 3 จำนวน 2 เครื่อง ถือว่ามีราคาที่แพงมากหากจำหน่ายกันในเรือนจำ
นอกจากนี้ ยังพบยาไอซ์กัญชา และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง บุหรี่ สมุดบัญชีธนาคาร สมุดรายชื่อการยืมเงิน บัตรเอทีเอ็ม อุปกรณ์การเล่นพนันไพ่ และลูกเต๋า นอกจากนี้ยังพบอาวุธมีดที่นักโทษประดิษฐ์ดัดแปลงจากอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนกว่า 500 ชิ้น
นายระพี กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากปัญหายาเสพติดที่กำลังระบาดในขณะนี้ เมื่อสืบทราบและทำการขยายผลส่วนใหญ่จะมีต้นตอมาจากเรือนจำ ซึ่งหลังจากทาง คสช. เน้นย้ำและจัดระเบียบความเรียบร้อยนั้น ทำให้การตรวจค้นเรือนจำทำได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากพบสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบที่มาที่ไปพร้อมกับขยายผลการลักลอบนำเข้ามาในเรือนจำอีกครั้ง ขณะที่ยาเสพติดทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเส้นทางการส่งยาเสพติดมาในเรือนจำได้อย่างไร ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการตรวจปัสสาวะของเจ้าหน้าที่เรือนจำด้วยเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
ด้านนางพรพิตร กล่าวว่า หลังจากตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายจำนวนมากนั้น ส่วนใหญ่นักโทษจะนำเข้ามาในเรือนจำทางทวารหนัก โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ยาก ซึ่งต่อไปในอนาคตทางกรมราชทัณฑ์จะต้องกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดผู้ต้องขังให้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลานำตัวไปขึ้นศาลพิจารณาคดี อีกทั้งต้องหามาตรการการป้องการโยนสิ่งของเข้ามาในเรือนจำด้วย ถึงแม้ว่าทางเรือนจำกลางพิษณุโลกจะมีระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีนักโทษที่ยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้อีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังพบยาไอซ์กัญชา และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง บุหรี่ สมุดบัญชีธนาคาร สมุดรายชื่อการยืมเงิน บัตรเอทีเอ็ม อุปกรณ์การเล่นพนันไพ่ และลูกเต๋า นอกจากนี้ยังพบอาวุธมีดที่นักโทษประดิษฐ์ดัดแปลงจากอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนกว่า 500 ชิ้น
นายระพี กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากปัญหายาเสพติดที่กำลังระบาดในขณะนี้ เมื่อสืบทราบและทำการขยายผลส่วนใหญ่จะมีต้นตอมาจากเรือนจำ ซึ่งหลังจากทาง คสช. เน้นย้ำและจัดระเบียบความเรียบร้อยนั้น ทำให้การตรวจค้นเรือนจำทำได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากพบสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบที่มาที่ไปพร้อมกับขยายผลการลักลอบนำเข้ามาในเรือนจำอีกครั้ง ขณะที่ยาเสพติดทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเส้นทางการส่งยาเสพติดมาในเรือนจำได้อย่างไร ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการตรวจปัสสาวะของเจ้าหน้าที่เรือนจำด้วยเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
ด้านนางพรพิตร กล่าวว่า หลังจากตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายจำนวนมากนั้น ส่วนใหญ่นักโทษจะนำเข้ามาในเรือนจำทางทวารหนัก โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ยาก ซึ่งต่อไปในอนาคตทางกรมราชทัณฑ์จะต้องกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดผู้ต้องขังให้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลานำตัวไปขึ้นศาลพิจารณาคดี อีกทั้งต้องหามาตรการการป้องการโยนสิ่งของเข้ามาในเรือนจำด้วย ถึงแม้ว่าทางเรือนจำกลางพิษณุโลกจะมีระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีนักโทษที่ยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้อีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
