xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านกว่าพันครัวเรือนในนิคมท่าแซะเรียกร้องที่ดินอยู่อาศัยหลังอยู่มานานกว่า 40 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ชุมพร - ชาวบ้านกว่าพันครัวเรือนที่อยู่ในเขตนิคมสหกรณ์ท่าแซะ จ.ชุมพร นานเกือบ 40 ปี ไร้เอกสารสิทธิ เริ่มมีความหวังหลังนายอำเภอ ผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมสรุปให้ความช่วยเหลือ

จากกรณีที่ราษฎรหมู่ 13, 14, 17, 18 ตำบลท่าแซะ และหมู่ 13 ตำบลท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กว่าพันครัวเรือนร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน และเตรียมเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เพื่อขอความช่วยเหลือหลังเข้าอยู่อาศัยในที่ดินจัดสรรนิคมสหกรณ์ท่าแซะ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตาม พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 มานานร่วม 40 ปี จนมีทะเบียนราษฎร บ้านเลขที่ ถนนลาดยาง วัด มัสยิด โรงเรียน มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน และสิ่งสาธารณูปโภคครบครันจนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ แต่ยังไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินอยู่อาศัย ตามข่าวที่เสนอนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (25 ก.ค.) ที่ห้องประชุมนิคมสหกรณ์ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ น.ส.วาณี อังตระการศิริ สหกรณ์จังหวัดชุมพร นายวิเชียร ชาญตสบุตร ผอ.นิคมสหกรณ์ท่าแซะ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนชาวบ้าน รวม 13 คน ร่วมหารือแก้ไขปัญหาราษฎรร้องขอสิทธิที่ดินทำกินในเขตนิคมสหกรณ์ท่าแซะดังกล่าว

นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าว กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้กันสงวนไว้เพื่อราชการ จำนวน 400 ไร่ และเพื่อกิจการของนิคมสหกรณ์ประมาณ 1,000 ไร่ แต่ได้มีชาวบ้านเข้าไปอยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี 2514 จนถึงปัจจุบัน วันนี้ในที่ประชุมได้ข้อสรุป 2 ข้อคือ 1.ให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันสำรวจการเข้าทำประโยชน์ว่ามีกี่ราย พร้อมจัดทำผังแต่ละแปลงผู้ครอบครองเป็นใคร และให้ทำเรื่องยื่นมาที่นิคมสหกรณ์ท่าแซะ ภายในวันที่ 29 ก.ค.59 พร้อมกับเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนไปยังส่วนกลางต่อไป 2.ที่ประชุมมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปทำความเข้าใจต่อชาวบ้านในพื้นที่ถึงแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวว่าให้ดำเนินการผ่านเรื่องไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบตามขั้นตอนก่อน โดยขอความร่วมมือให้ชะลอการเดินทางไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ไปก่อน

ด้าน น.ส.กาญจนา หนูทอง แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวทางนิคมสหกรณ์เป็นผู้จัดสรรรังวัดให้เราเข้ามาอยู่เองไม่ใช่เป็นผู้บุกรุก หากชาวบ้านบุกรุกแล้วเหตุใดจึงปล่อยให้ชาวบ้านเข้าอยู่อาศัยสร้างบ้านถาวรเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีถนนลาดยาง ไฟฟ้า สิ่งสาธารณูปโภคครันอย่างนี้ ซึ่งผลสรุปในวันนี้ก็มีลักษณะคล้ายกับหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาแล้วเรื่องก็เงียบหายไป ซึ่งในวันที่ 29 ก.ค.นี้ หลังจากพวกเราทุกคนยื่นหลักฐานเอกสารการครอบครองทำประโยชน์แล้ว ผู้เกี่ยวข้องจะต้องกำหนดระยะเวลาด้วยว่าจะส่งเรื่องเข้าไปยังกรม และกระทรวงเมื่อไร เราจะได้ตามเรื่องถูก ไม่อยากให้เรื่องก็จะเงียบหายเหมือนที่ผ่านมาอีก เพราะปัจจุบันรัฐบาล คสช.คือ ที่พึ่งของพวกเรา
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น