ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บริษัทรับเหมาก่อสร้างคลอง ร.1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร้องกรมชลประทานผ่านสื่อ โดนผู้รับเหมาเบี้ยวจ่ายค่างจ้าง พบปมทุจริตเพียบ วอนเร่งตรวจสอบ
วันนี้ (14 ก.ค.) นางเกียรติสุดา เม่งช่วย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/5 หมู่ 8 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็มทรัพย์มหาศาล จำกัด และเป็นผู้รับเหมาเพื่อก่อสร้างปรับปรุงคลอง ร.1 พร้อมอาคารประกอบสัญญาที่ 1 โครงการบรรเทาอุทกภัย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระยะที่ 2 ในวงเงิน 44 ล้านเศษ ในช่วงของ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา จากบริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ที่ทำสัญญากับกรมชลประทาน
แต่หลังจากที่ตนเองได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วไม่สามารถเบิกเงินตามงวดงาน ซึ่งในสัญญาให้มีการเบิกเงินตามเนื้องาน เดือนละ 1 งวด โดยบริษัทสยามพันธุ์ฯ ไม่รับผิดชอบในการเบิกจ่าย แต่ให้ตนส่งเอกสารไปเบิกเงินจากบริษัท บ้านภูเก็ต จำกัด ซึ่งเป็นเอเยนซีของ บริษัท สยามพันธุ์ฯ แทน และบริษัท บ้านภูเก็ต ที่เป็นเอเยนซีมีการบ่ายเบี่ยง รวมทั้งการคิดค่าก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญาที่ทำกับ บริษัท สยามพันธุ์ฯ รวมทั้งมีการเตะถ่วงงานให้เกิดความล่าช้า ทำให้ขาดทุน มีลักษณะที่เหมือนกับการบีบทางอ้อมให้ทิ้งงาน หรือให้ผิดสัญญา ตนเองได้พยายามติดต่อกับบริษัท สยามพันธุ์ฯ ที่เป็นผู้รับเหมาโดยตรงต่อกรมชลประทาน แต่ทาง บริษัท สยามพันธุ์ฯ ไม่รับผิดชอบ โดยได้กล่าวว่า มอบความรับผิดชอบให้แก่ บริษัท บ้านภูเก็ต จำกัด เป็นผู้จัดการแทน
ตนรับเหมาก่อสร้างตามสัญญาในวงเงิน 44 ล้านบาท 3 เดือนแรกใช้เงินไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท งานที่ทำเป็นไปตามสัญญา แต่เบิกเงินได้มาเพียง 2 งวด งวดละ 1.4 แสนบาท ส่วนงวดที่ 3 ที่ตนยื่นเบิกไปก็ยังเบิกไม่ได้ และล่าสุด มีการนำดินในโครงการซึ่งไม่สามารถขายให้แก่เอกชนได้ ไปเททิ้งในที่ดินของเอกชน โดยที่บริษัทของตนไม้ได้เกี่ยวข้อง ดังนั้น ตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อบริษัทผู้เกี่ยวข้อง โดย ร.ต.อ.อาทิตย์ คงหนู พงส.เวรสอบสวน ได้รับแจ้ง และลงบันทึกประจำวัน พร้อมทั้งแจ้งว่าเป็นเรื่องทางแพ่ง โดยจะรียกคู่กรณีทำการไกล่เกลี่ยต่อไป
สำหรับโครงการคลอง ร.1 มีข้อสังเกตว่า ผู้รับเหมาหลายบริษัทที่เข้ามารับเหมางานเป็นช่วงๆ ถูกบีบให้ทิ้งงานไปแล้วหลายบริษัทด้วยกัน และยังมีการนำดินที่ขุดขึ้นมาไปขายให้แก่เอกชนในราคา 500 บาทต่อหนึ่งคันรถ 6 ล้อ ซึ่งดินที่ขุดได้จากการขยาย และปรับปรุงคลอง ร. 1 ในระยะทาง 10 กว่ากิโลเมตร มีจำนวนหลายล้านคิว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรลงไปตรวจสอบ
ในขณะที่ นางเกียรติสุดา กล่าวว่า การร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวครั้งนี้มีความประสงค์เพียงต้องการรับเงินที่ลงทุนในการก่อสร้างไปแล้วเท่านั้น เพื่อนำเงินมาจ่ายให้แก่คนงาน และเจ้าของรถแบ็กโฮ รถบรรทุกดินอื่นๆ ที่ตนยังติดค้างอยู่ และหากได้รับเงินแล้วจะเลิกสัญญาไม่ทำต่อไปอีก เพราะการบริหารงานที่ครอง ร.1 เต็มไปด้วยความซับซ้อนที่ส่อไปในทางที่ไม่ถูกต้อง และต้องการให้กรมชลประทานลงมาตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นด้วย