กระบี่ - ตร.ภาค 8 ร่วมกับ ตร.กระบี่ จับผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดล็อดใหญ่ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท คาปั๊มน้ำมัน
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผบก.สส.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ ผกก.สภ.เขาพนม พ.ต.ท.พิษณุ พ่วงพร้อม รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ มีผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายอำนาจอิทธิฤทธิ์ เลื่อนลอย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 531 ม.5 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายยุทธนา สังขโชติ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 ม.4 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 52,000 เม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน 1 คัน หมายเลขทะเบียน บษ 5940 นครศรีธรรมราช โดยจับกุมได้ที่บริเวณปั๊มนำมัน ปตท.เขาพนม ม.5 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.กระบี่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกับกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ได้จับกุมตัว นางปิยะรัตน์ หรือผึ้ง หลานโป๊ะ พร้อมของกลางยาบ้า 178 เม็ด จากนั้นได้มีการสืบสวนขยายผล และทราบว่า นางปิยะรัตน์ ผู้ต้องหารับซื้อของกลางมาจากเครือข่าย นายอำนาจอิทธิฤทธิ์ และนายยุทธนา 2 ผู้ต้องหา จึงได้ติดต่อล่อซื้อ และจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง โดยจับได้ขณะผู้ต้องหาทั้งสองขับรถกระบะคันดังกล่าวมาส่งของกลางที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ในพื้นที่ตลาดเขาพนม ต.เขาพนม อ.เขาพนม ซึ่งสามารถยึดของกลางยาบ้า จำนวน 2 มัด รวมกว่า 4,000 เม็ด
จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจค้น พบของกลางซุกซ่อนไว้ใต้พื้นปูกระบะช่วงทายรถกระบะ ได้ของกลางเพิ่มอีก 24 มัด รวม 48,000 เม็ด เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจากพื้นที่นครศรีธรรมราช โดยนำมาจำหน่ายให้แก่เอเยนต์รายย่อยในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.เทศา กล่าวว่า หลังจากจับกุมผู้ต้องหาค้าบ้ารายใหญ่ทั้ง 2 รายได้ ก็กำชับเจ้าหน้าที่ทำการขยายผล และตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน หากพบให้ทำการยึดทรัพย์ทันที และจากการจรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบการเชื่อมโยงเครือข่ายเรือนจำ และหากว่ายาเสพติดจำนวนดังกล่าวถูกนำไปจำหน่ายก็จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผบก.สส.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ ผกก.สภ.เขาพนม พ.ต.ท.พิษณุ พ่วงพร้อม รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ มีผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายอำนาจอิทธิฤทธิ์ เลื่อนลอย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 531 ม.5 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายยุทธนา สังขโชติ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 ม.4 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 52,000 เม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน 1 คัน หมายเลขทะเบียน บษ 5940 นครศรีธรรมราช โดยจับกุมได้ที่บริเวณปั๊มนำมัน ปตท.เขาพนม ม.5 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.กระบี่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกับกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ได้จับกุมตัว นางปิยะรัตน์ หรือผึ้ง หลานโป๊ะ พร้อมของกลางยาบ้า 178 เม็ด จากนั้นได้มีการสืบสวนขยายผล และทราบว่า นางปิยะรัตน์ ผู้ต้องหารับซื้อของกลางมาจากเครือข่าย นายอำนาจอิทธิฤทธิ์ และนายยุทธนา 2 ผู้ต้องหา จึงได้ติดต่อล่อซื้อ และจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง โดยจับได้ขณะผู้ต้องหาทั้งสองขับรถกระบะคันดังกล่าวมาส่งของกลางที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ในพื้นที่ตลาดเขาพนม ต.เขาพนม อ.เขาพนม ซึ่งสามารถยึดของกลางยาบ้า จำนวน 2 มัด รวมกว่า 4,000 เม็ด
จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจค้น พบของกลางซุกซ่อนไว้ใต้พื้นปูกระบะช่วงทายรถกระบะ ได้ของกลางเพิ่มอีก 24 มัด รวม 48,000 เม็ด เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจากพื้นที่นครศรีธรรมราช โดยนำมาจำหน่ายให้แก่เอเยนต์รายย่อยในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.เทศา กล่าวว่า หลังจากจับกุมผู้ต้องหาค้าบ้ารายใหญ่ทั้ง 2 รายได้ ก็กำชับเจ้าหน้าที่ทำการขยายผล และตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน หากพบให้ทำการยึดทรัพย์ทันที และจากการจรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบการเชื่อมโยงเครือข่ายเรือนจำ และหากว่ายาเสพติดจำนวนดังกล่าวถูกนำไปจำหน่ายก็จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
