กระบี่ - ตำรวจ ภ.8 ขยายผลจับกุมเครือขายยาเสพติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 50,000 เม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เผยมีเอเยนต์ครอบคลุมทุกจังหวัดในภาคใต้ เตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการยึดทรัพย์
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ต.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รรท.ผกก.สส.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.ท.ชัชวำล นิลจันทร์ รรท.รอง ผกก.บก.สส.ภ.8 เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.สส.ภ.8 ชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.กระบี่ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคใต้
มีผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายสุทน ชูมณี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ม.5 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายสุรชัย หม้อน้ำร้อน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลข 81/1 ม.2 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และนายอภิชาต ก๊กใหญ่ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/3 ม.2 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 50,000 เม็ด รถยนต์กระบะ ทะเบียน บจ 524 กระบี่ จำนวน 1 คัน และอาวุธปืน 1 กระบอก
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสุทน ผู้ต้องหารายแรกมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด จึงได้ติดต่อล่อซื้อ และจับกุมตัวพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 270 เม็ด พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขาคลองท่อม เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา โดย นายสุทน ยังได้รับว่า ได้สั่งของกลางจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง และนัดนำยาบ้าอีก จำนวน 4,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงยึดยาบ้าไว้ได้ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมทำการขยายผล
จากนั้นจึงขยายผลไปยังผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เหลือ จับได้ที่บริเวณ บขส.ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ พร้อมตรวจยึดของกลางได้เพิ่มอีกรวมกว่า 5 หมื่นเม็ด ได้เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหารายแรกมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองฯ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.เทศา กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนขยายผลพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดที่จับกุมได้อยู่ในเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ มีเอเยนต์ครอบคลุมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ โดยมูลค่ายาเสพติดที่ทางเจ้าหน้าที่จับได้หากว่ามีการนำไปจำหน่ายก็จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผล และยึดทรัพย์ผู้ร่วมขบวนการตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ต.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง ผบก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รรท.ผกก.สส.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.ท.ชัชวำล นิลจันทร์ รรท.รอง ผกก.บก.สส.ภ.8 เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.สส.ภ.8 ชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.กระบี่ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคใต้
มีผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายสุทน ชูมณี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ม.5 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายสุรชัย หม้อน้ำร้อน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลข 81/1 ม.2 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และนายอภิชาต ก๊กใหญ่ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/3 ม.2 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 50,000 เม็ด รถยนต์กระบะ ทะเบียน บจ 524 กระบี่ จำนวน 1 คัน และอาวุธปืน 1 กระบอก
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสุทน ผู้ต้องหารายแรกมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด จึงได้ติดต่อล่อซื้อ และจับกุมตัวพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 270 เม็ด พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขาคลองท่อม เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา โดย นายสุทน ยังได้รับว่า ได้สั่งของกลางจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง และนัดนำยาบ้าอีก จำนวน 4,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงยึดยาบ้าไว้ได้ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมทำการขยายผล
จากนั้นจึงขยายผลไปยังผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เหลือ จับได้ที่บริเวณ บขส.ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ พร้อมตรวจยึดของกลางได้เพิ่มอีกรวมกว่า 5 หมื่นเม็ด ได้เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหารายแรกมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองฯ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.เทศา กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนขยายผลพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดที่จับกุมได้อยู่ในเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ มีเอเยนต์ครอบคลุมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ โดยมูลค่ายาเสพติดที่ทางเจ้าหน้าที่จับได้หากว่ามีการนำไปจำหน่ายก็จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผล และยึดทรัพย์ผู้ร่วมขบวนการตามกฎหมายต่อไป