xs
xsm
sm
md
lg

“ทวาย” แผ่นดินที่พอเพียง มั่งคั่ง ทุนนิยมสำรากอย่าได้เข้าไปเบียดเบียนเขาเลย!! / ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ความมั่งคั่งจากทะเลพม่า แม้จะปิดประเทศมานาน แต่ตลาดปลาไม่เคยปิด
 
เรื่อง/ภาพ  ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที
 
น้ำท่วมกรุงเทพฯ กลุ่มเมฆก้อนเดียวกันนี้หอบหิ้วพัดพาให้ผมต้องเดินทางเข้า “ทวาย” เป็นครั้งที่ 2 เพื่อไปเก็บข้อมูลบันทึกเรื่องราวความเป็นไปของจังหวัดทวาย หัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาคตะนาวศรีทางภาคใต้ของประเทศพม่า
 
ปลาจากทะเลยังมีมากมายมหาศาลที่ทวาย
 
การเดินทางเข้าจังหวัดทวายต้องผ่านเข้าไปทางด่านพุน้ำร้อน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตลอดการเดินทางชุ่มฉ่ำไปด้วยกลุ่มฝนที่กินพื้นที่กว้างบนท้องฟ้า คลุมพื้นที่ไปทั่วจากฝั่งไทยไปถึงทวาย เพราะเราห่างกันเพียง 150 กิโลเมตร จากชายแดนไทยถึงจังหวัดทวายของพม่า
 
การเดินทางครั้งนี้ เทือกเขาตะนาวศรีเขียวชอุ่มสดชื่นกว่าการเดินทางเมื่อครั้งฤดูแล้ง ซึ่งถนนฟุ้งไปด้วยฝุ่นแดงยามที่รถวิ่งสวนทางกัน อากาศสดชื่น บรรยากาศของทะเลภูเขากว้างไกลสุดสายตา ทำให้เราเปิดหน้าต่างรถยนต์โดยสารตลอดการเดินทาง เพื่อรับเอาลมหายใจแห่งขุนเขาตะนาวศรีให้ได้ซึมซับเต็มปอด
 
ตลาดสดขายปลาที่โต๊ะทำด้วยหินอ่อน ตลาดสดทวายมีชีวิตชีวาต่อเนื่องมาเป็นร้อยปี
 
ผ่านเข้าไปในเขตของกะเหรี่ยง ซึ่งเสียงปืนสงบลงแล้ว ด้วยเงื่อนไขแห่งการหยุดยิง เพื่อร่วมมือพัฒนาแบ่งปันผลประโยชน์กับรัฐบาลย่างกุ้ง เขตอิทธิพลของกะเหรี่ยงนั้น เราจะเห็นมีการเปลือยผืนป่าแผ้วถางตัดโค่นเพื่อการสร้างบ้านแปลงเมือง
 
ผู้นำของกองกำลังกะเหรี่ยงมีการเรียกร้องให้ชาวกะเหรี่ยงตามแนวชายแดนไทย หรือที่อาศัยอยู่ฝั่งไทยให้กลับไปสร้างชุมชน โดยมีนโยบายเปิดโอกาสให้ชาวกะเหรี่ยงที่กลับไปจากฝั่งไทย สามารถแผ้วถางผืนป่าจับจองที่ดิน ทางทหารกะเหรี่ยงก็จะให้สิทธิในที่ดิน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ชาวกะเหรี่ยงกลับเข้ามาสร้างชุมชน ขยายเมืองกันบริเวณ 2 ข้างทางของถนนที่ตัดผ่านเทือกเขาตะนาวศรี 
 
ผลผลิตจากสวนสมรมเข้าสู่ตลาดยามเช้าทวายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน กล้วยหอม จำปาดะ ลูกเนียง มะละกอพันธุ์พื้นบ้าน ฯลฯ
 
น้ำในแม่น้ำใหญ่ที่พาดผ่านหุบเขาในเขตเทือกเขาตะนาวศรี ในช่วงหน้าฝน ช่วงนี้ไม่ได้ใสไหลเย็นเหมือนเมื่อคราวฤดูแล้ง เพราะเมื่อถึงหน้าฝนมาเยือน ลำธาร สายน้ำน้อยใหญ่ก็จะไหลพาตะกอนดินแดงลงสู่ลงแม่น้ำใหญ่ ที่เป็นส่วนของหุบเขาที่อยู่ด้านล่าง
 
วิถีชีวิตบริเวณแม่น้ำตะนาวศรีที่นี่มีการร่อนทอง ทำทองมาตั้งแต่ครั้งโบราณ ทองคำจากผิวดินที่ไหลปะปนมากับกรวดทรายมีอยู่ตามลำธาร ซึ่งเป็นทองคำแห่งความมั่งคั่งที่ก่อให้เกิด “กุศล” 
 
“ทองคำ” มีอยู่ตามลำน้ำตะนาวศรี และไม่ใช่ “ทองคำอกุศล” ที่เบียดเบียนเพื่อนมนุษย์
 
เมื่อร่อนทองได้มาก ซึ่งพวกเขาไม่ได้มีการเปิดหน้าดินทำเหมืองสกัดทองด้วยการใช้สารไซยาไนด์ ทองคำที่ได้มากจึงนำมาสร้างเจดีย์เหลืองอร่ามไปทั่วแผ่นดินพม่า เพราะไม่ได้เป็น “ทองคำอกุศล” ที่ผ่านการฆ่า ทำลายมนุษย์ สำรอกมาจากความโลภของทุนนิยม
 
ชาวพม่าที่ร่อนทองเล่าว่า... “เคยมีบางวันที่โชคดี ร่อนทองหาตามลำน้ำในหุบเขา เคยได้กันบางคราวคนละกิโลสองกิโล”
 
ทวายมีภูมิปัญญา “สวนสมรม” ภาคการเกษตรสื่อเนื่องมาตั้งแต่โบราณกาล ยอดหมาก ยอดมะพร้าว ยอดมังคุด ทุเรียน ฯลฯ สมรมกันอยู่ในผืนป่า
 
สิ่งบอกเล่าจากปากชาวพม่า สะท้อนให้เห็นว่า ผิวดินมีความมั่งคั่งเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงมนุษย์ให้มีความสุขได้ โดยไม่ทำลายเบียดเบียนชีวิตคนด้วยสาร “ไซยาไนด์” และ “โลหะหนัก” เหมือนกับเหมืองทองที่เป็นข่าวอยู่ในประเทศไทย 
 
5 ชั่วโมงของการเดินทางผ่านทะเลภูเขาตะนาวศรี เข้าเขตตัวเมืองจังหวัดทวาย เราจะได้เห็น “วิถีเกษตร” ที่เป็นภูมิปัญญา “การทำเกษตรแบบผสมผสาน” หรือที่ภาคใต้เรียกว่า “การทำสวนแบบสมรม” ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวทวายเขาทำกันมาหลายชั่วอายุคน
 
“สวนสมรม” ที่หน้าดินคลุมไปด้วยสารพัดพืชที่ไม่นำไปสู่หนี้สิน
 
“หนี้ครัวเรือนในภาคเกษตร” ของชาวทวายนั้น พวกเขาไม่รู้จักว่ามันคืออะไร!!
 
หรืออย่างการเกษตรที่มีลมหายใจเข้าก็ “ธ.ก.ส.” ออกก็ “ธ.ก.ส.” แบบที่ประเทศไทยเป็นอยู่เขาก็ไม่คุ้นเคย!!
 
“ทำนาปีมีหนี้กับซัง ทำนาปรังเหลือซังกับหนี้” คำขวัญแบบนี้ก็ไม่เคยได้ยินในสังคมชาวทวาย!!
 
“สวนสมรม” ที่ทวายมีให้กินได้ตลอด และเหลือกินเมื่อไหร่ถึงค่อยขาย
 
“บนดอยหรือภูเขามีแต่ไร่ข้าวโพด” พี่น้องภาคการเกษตรของไทย “ทำงานชาตินี้ หนี้สินตามไปถึงชาติหน้า”!!
 
ทำไมคนไทยเรากลับเรียกสิ่งนี้ว่า “ความเจริญ” และ “การพัฒนา” อย่างนั้นหรือ?! ?!
 
หลังบ้านคือ “สวนสมรม” คลังอาหารที่ปลูกพืชผสมผสานหล่อเลี้ยงคนทวาย
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น