xs
xsm
sm
md
lg

ก.การท่องเที่ยวฯ เสริมศักยภาพบุคลากรและความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวภูเก็ต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดกิจกรรมพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว เพื่อยกระดับมาตรฐานบุคลากรในการดูแลความปลอดภัย สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (24 มิ.ย.) นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดโครงการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยว (กิจกรรมพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว) โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สมาคมโรงแรมไทย กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และหอการค้า ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่บุคลากร เจ้าหน้าที่ในโรงแรมเพื่อรับมือต่อสถานการณ์ต่างๆ ด้านความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้
โดยมี นายสุธรรม เดชดี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสันติ ป่าหวาย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาและการกีฬา กรมพลศึกษา นางอุไรรัตน์ เนาถาวร ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและกำกับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว นายกสมาคมโรงแรมไทย หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม พนักงานโรงแรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ โรงแรม รอยัล ภูเก็ต

นางอุไรรัตน์ เนาถาวร ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและกำกับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุระเบิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ ณ แยกราชประสงค์ ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สมาคมโรงแรมไทยตระหนักถึงความสำคัญ และนำเสนอให้มีการจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากร เจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อคอยระวังสังเกต และรับมือต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่เกี่ยวข้องต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ให้มีทัศนคติ และความรู้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยวเพื่อนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยกำหนดจัดกิจกรรมในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จังหวัดละ 150 คน ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว 2 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ และชลบุรี ได้รับการตอบรับ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

ด้าน นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การท่องเที่ยวและการบริการเป็นแหล่งรายได้จับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ดังจะเห็นได้จากปี 2558 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวไทยมากถึง 29.88 ล้านคน ขยายตัว 20.44% มีรายได้ 2.23 ล้านล้านบาท เกินเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ก่อนหน้ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2559 พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จำนวน 14,158,649 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 12.92 แม้จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศ เช่น เหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ และปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น การระบาดของไวรัสเมอร์ส การก่อการร้าย เหตุแผ่นดินไหว และเศรษฐกิจโลกตกต่ำอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อว่า แม้ที่ผ่านมา ประเทศไทยจะประสบภาวะวิกฤตที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ แต่เมื่อผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว นักท่องเที่ยวยังคงกลับมาเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวมีต่อไทย ทั้งนี้ นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และคุณภาพด้านการบริการที่ทุกฝ่ายมีอย่างยอดเยี่ยมแล้ว สิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยว คือ ความปลอดภัย และความมั่นใจในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว

ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการโรงแรมเพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความร่วมมือ และการประสานงานกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยดำเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ให้มีทัศนคติ ความรู้ การสังเกต การเฝ้าระวัง การป้องกัน และมีความสามารถในการแก้ไขปัญหา และรับมือต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยว เพื่อนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดีด้านมาตรฐานความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เกิดความประทับใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย และมีความต้องการอยากกลับมาเที่ยวซ้ำในโอกาสต่อไป เป็นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะสามารถยกระดับมาตรฐานบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง มีเครือข่ายประสานงานระหว่างภารรัฐ และเอกชน และสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น