xs
xsm
sm
md
lg

สุดเศร้า! ชีวิตหนูน้อย 7 ขวบมืดมิดหลังไร้พ่อแม่ดูแล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ชีวิตหนูน้อยวัย 7 ขวบ สุดแสนมืดมิด และมองไม่เห็นอนาคต หลังพ่อแม่เสียชีวิตลงพร้อมกันจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เมื่อไม่กี่เดือนก่อน จนต้องมาอยู่กับปู่ย่าที่แก่ชรา และมีรายได้น้อย

วันนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 236 หมู่ที่ 6 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นายสมเกียรติ และนางสุพิน นาศรี สองสามีภรรยา ผู้เป็นปู่และย่าของ ด.ช.ณัฐนันท์ หรือน้องหมู นาศรี อายุ 7 ขวบ ที่เพิ่งจะกำพร้าพ่อแม่เนื่องจากได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ เมื่อปลายเดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมา ขณะที่หนูน้อยซึ่งนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาด้วย แต่กลับรอดตายราวปาฏิหาริย์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นชีวิตของน้องหมู กลับมืดมิดลง และแทบมองไม่เห็นอนาคต เพราะไร้พ่อแม่ มีเพียงปู่และย่าที่แก่ชรา รวมทั้งยังมีรายได้เพียงแค่วันละน้อยนิดเท่านั้น
 
นายสมเกียรติ นาศรี ผู้เป็นปู่ กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ช่วงชีวิตที่ผ่านมาตนเองตั้งใจทำมาหากินด้วยความขยันขันแข็ง และมีอาชีพเป็นยามมานานกว่า 20 ปี แต่จู่ๆ เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา กลับถูกเลิกจ้าง จนทำให้ชีวิตตกอับ มีเพียงรายได้จากภรรยาที่พอเก็บผักขายได้วันละ 100-200 บาทเท่านั้น แถมยังมีเคราะห์กรรมซ้ำซัด เพราะต้องมาสูญเสียลูกชาย และลูกสะใภ้ไปพร้อมกันอย่างที่ไม่มีวันหวนกลับ ทิ้งหลานตัวน้อยไว้ให้ดูแล และถือว่าเป็นภาระที่หนักมากทีเดียว เพราะเด็กต้องกินต้องใช้ทุกวัน แถมยังต้องเรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.1 ที่โรงเรียนบ้านหนองไทร อ.นาโยง จ.ตรัง โดยมีค่าใช้จ่ายวันละ 50-80 บาท

อย่างไรก็ตาม โชคดีที่เมื่อตอนเปิดเทอม มีผู้ใจบุญซื้อชุดนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า มาให้ และก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนก็ได้มีการมอบทุนช่วยเหลือ จำนวน 5,000 บาท โดยเรียกตนและภรรยาไปรับมอบซองเปล่า แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเงินโอนเข้ามาแต่อย่างใด พอตอนไปทวงถามกลับถูกว่ากล่าวให้เสียหาย เพราะทางโรงเรียนเกรงว่าตนจะเอาเงินจำนวนนี้ไปใช้จ่ายส่วนตัว แต่ขอบอกว่า ตนไม่เคยมีความคิดแบบนั้น แม้ไม่มีใครช่วยเหลือตนก็ต้องดูแลอยู่แล้ว ส่วนความหวังสูงสุดของตนก็แค่อยากให้หลานชายได้เรียนหนังสือสูงๆ ได้ทำงานดีๆ ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป ขณะที่ความฝันของน้องหมู บอกว่า โตขึ้นอยากเป็นนักฟุตบอล
 

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น