สุราษฎร์ธานี - ครูผู้ช่วยประจำศูนย์เด็กที่สุราษฎร์ฯ โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือให้ น้องกร อายุ 10 ปี ต้องการเรียนหนังสือ แต่ฐานะยากจนไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน หลังแพร่ในโลกโซเชียล มีผู้ให้ความสนใจเข้าช่วยเหลือจำนวนมาก ล่าสุด นายอำเภอพนม นำทีมลงพื้นที่พบครอบครัวเด็ก
จากกรณีมีการโพสต์เฟซบุ๊กข้อความโดยสรุป ว่า มีน้องนักเรียนชั้น ป.3 น่าสงสารมาก ยังไม่ได้เข้าเรียนชั้น ป.4 เพราะแม่ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้ โดยตอนเช้าน้องคนนี้กับคุณแม่จะเดินมาส่งน้องคนเล็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบางสาน ม.11 ต.พนม อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ทุกวัน ซึ่งข้อความดังกล่าวโพสต์โดยผู้ที่ใช้ชื่อ “Kru Nun Noodang” ซึ่งหลังที่โพสต์ดังกล่าวมีการพูดถึงกันในโลกโซเชียล ทำให้มีผู้ใจบุญติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กเพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กคนดังกล่าวจำนวนมาก
โดยวันนี้ (20 พ.ค.) นายภิญโญ หวังสุทธิ์ นายอำเภอพนม พร้อมด้วย นายณรังสรรค์ สาคร นายก อบต.พนม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปสอบถามรายละเอียดต่อ น.ส.กัญณภัทร หนูแดง อายุ 29 ปี ครูผู้ช่วยดูแลเด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนางสาน เจ้าของเฟซบุ๊ก “Kru Nun Noodang” กรณีมีการโพสต์ข้อความดังกล่าว จากการสอบถามข้อมูลทำให้ทราบว่า เด็กชายที่ถูกกล่าวถึง คือ ด.ช.อลงกรณ์ หรือ “น้องกร” แก้วนามอม อายุ 10 ปี เป็นพี่ชายของของ ด.ช.ทรงสวัสดิ์ “น้องฟูฟู” แก้วนามอม อายุ 2 ปี 10 เดือน ซึ่งเรียนอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลทราบว่า ตั้งแต่เปิดเทอม ด.ช.อลงกรณ์ เดินเท้ามากับแม่เพื่อส่งน้องทุกวัน ซึ่งทางครูก็ได้สอบถามว่า ทำไมไม่ไปโรงเรียน ก็ได้รับคำตอบว่า แม่ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้ลูก ครูจึงได้โพสต์ข้อความดังกล่าวเพื่อขอความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญให้ช่วยเหลือเด็ก โดยพ่อแม่มีอาชีพรับจ้างกรีดยางของ นายสมพร ทองแท่น อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.11 ต.พนม อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี และเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ อ.พนม ได้เพียงเดือนกว่าๆ
ต่อมา นายอำเภอพร้อม พร้อมคณะ และนายจ้างได้เดินทางไปบ้านพักของคนกรีดยาง พบ นายเสดื่อง แก้วนามอม อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาเดิมชาว จ.อุดรธานี และนางอาจินต์ สมวงศ์ อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาเดิม จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยลูกชาย 2 คน คือ ด.ช.อลงกรณ์ “น้องกร” แก้วนามอม อายุ 10 ปี และ ด.ช.ทรงสวัสดิ์ “น้องฟูฟู” แก้วนามอม อายุ 2 ปี 10 เดือน ซึ่งทั้งคู่มีโรคประจำตัวคือ โรคหอบหืด โดยที่ ด.ช.อลงกรณ์ ต้องการเรียนหนังสือแต่แม่ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนจริงๆ ส่วน ด.ช.ทรงสวัสดิ์ อายุ 2 ขวบครึ่ง ไปเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบางสาน และเรียนฟรีทุกอย่าง
หลังจากทราบข้อมูล ทางนายอำเภอได้ประสานไปยัง ว่าที่ ร.ต.รังสฤษฎ์ สาริพัฒน์ ผอ.ร.ร.บ้านบางสาน เพื่อให้ ด.ช.อลงกรณ์ ได้เรียนหนังสือ โดยให้ไปเรียนได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 พ.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนทางโรงเรียนมีให้บางส่วน ที่เหลือทางอำเภอ ร่วมกับสมาคมนักข่าวสุราษฎร์ธานี จะสนับสนุนเพิ่มเติม รวมทั้งรถจักรยานเพื่อมอบให้ ด.ช.อลงกรณ์ ใช้สำหรับเดินทางไปโรงเรียน และส่งน้องชายที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
น้องกร ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่เข้าช่วยเหลือ และแสดงความดีใจที่ได้กลับมาเรียนอีกครั้ง หลังจากหยุดเรียนย้ายตามครอบครัวไปทำงานในที่ต่างๆ จนไม่มีโอกาสเรียนหนังสือมาเกือบปี โดยระบุว่า จะตั้งใจเรียน และมีความหวังว่าโตขึ้นจะยึดสายอาชีพเรียนเป็นช่างเครื่องช่างยนต์
จากกรณีมีการโพสต์เฟซบุ๊กข้อความโดยสรุป ว่า มีน้องนักเรียนชั้น ป.3 น่าสงสารมาก ยังไม่ได้เข้าเรียนชั้น ป.4 เพราะแม่ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้ โดยตอนเช้าน้องคนนี้กับคุณแม่จะเดินมาส่งน้องคนเล็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบางสาน ม.11 ต.พนม อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ทุกวัน ซึ่งข้อความดังกล่าวโพสต์โดยผู้ที่ใช้ชื่อ “Kru Nun Noodang” ซึ่งหลังที่โพสต์ดังกล่าวมีการพูดถึงกันในโลกโซเชียล ทำให้มีผู้ใจบุญติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กเพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กคนดังกล่าวจำนวนมาก
โดยวันนี้ (20 พ.ค.) นายภิญโญ หวังสุทธิ์ นายอำเภอพนม พร้อมด้วย นายณรังสรรค์ สาคร นายก อบต.พนม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปสอบถามรายละเอียดต่อ น.ส.กัญณภัทร หนูแดง อายุ 29 ปี ครูผู้ช่วยดูแลเด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนางสาน เจ้าของเฟซบุ๊ก “Kru Nun Noodang” กรณีมีการโพสต์ข้อความดังกล่าว จากการสอบถามข้อมูลทำให้ทราบว่า เด็กชายที่ถูกกล่าวถึง คือ ด.ช.อลงกรณ์ หรือ “น้องกร” แก้วนามอม อายุ 10 ปี เป็นพี่ชายของของ ด.ช.ทรงสวัสดิ์ “น้องฟูฟู” แก้วนามอม อายุ 2 ปี 10 เดือน ซึ่งเรียนอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลทราบว่า ตั้งแต่เปิดเทอม ด.ช.อลงกรณ์ เดินเท้ามากับแม่เพื่อส่งน้องทุกวัน ซึ่งทางครูก็ได้สอบถามว่า ทำไมไม่ไปโรงเรียน ก็ได้รับคำตอบว่า แม่ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้ลูก ครูจึงได้โพสต์ข้อความดังกล่าวเพื่อขอความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญให้ช่วยเหลือเด็ก โดยพ่อแม่มีอาชีพรับจ้างกรีดยางของ นายสมพร ทองแท่น อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.11 ต.พนม อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี และเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ อ.พนม ได้เพียงเดือนกว่าๆ
ต่อมา นายอำเภอพร้อม พร้อมคณะ และนายจ้างได้เดินทางไปบ้านพักของคนกรีดยาง พบ นายเสดื่อง แก้วนามอม อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาเดิมชาว จ.อุดรธานี และนางอาจินต์ สมวงศ์ อายุ 40 ปี ภูมิลำเนาเดิม จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยลูกชาย 2 คน คือ ด.ช.อลงกรณ์ “น้องกร” แก้วนามอม อายุ 10 ปี และ ด.ช.ทรงสวัสดิ์ “น้องฟูฟู” แก้วนามอม อายุ 2 ปี 10 เดือน ซึ่งทั้งคู่มีโรคประจำตัวคือ โรคหอบหืด โดยที่ ด.ช.อลงกรณ์ ต้องการเรียนหนังสือแต่แม่ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียนจริงๆ ส่วน ด.ช.ทรงสวัสดิ์ อายุ 2 ขวบครึ่ง ไปเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบางสาน และเรียนฟรีทุกอย่าง
หลังจากทราบข้อมูล ทางนายอำเภอได้ประสานไปยัง ว่าที่ ร.ต.รังสฤษฎ์ สาริพัฒน์ ผอ.ร.ร.บ้านบางสาน เพื่อให้ ด.ช.อลงกรณ์ ได้เรียนหนังสือ โดยให้ไปเรียนได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 พ.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนทางโรงเรียนมีให้บางส่วน ที่เหลือทางอำเภอ ร่วมกับสมาคมนักข่าวสุราษฎร์ธานี จะสนับสนุนเพิ่มเติม รวมทั้งรถจักรยานเพื่อมอบให้ ด.ช.อลงกรณ์ ใช้สำหรับเดินทางไปโรงเรียน และส่งน้องชายที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
น้องกร ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่เข้าช่วยเหลือ และแสดงความดีใจที่ได้กลับมาเรียนอีกครั้ง หลังจากหยุดเรียนย้ายตามครอบครัวไปทำงานในที่ต่างๆ จนไม่มีโอกาสเรียนหนังสือมาเกือบปี โดยระบุว่า จะตั้งใจเรียน และมีความหวังว่าโตขึ้นจะยึดสายอาชีพเรียนเป็นช่างเครื่องช่างยนต์
