ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ประสานงานเปอร์มาตามาส ประกาศใช้ลานใต้ร่มไม้ใน ม.อ.ปัตตานี จัดเสวนา “สันติภาพจอมปลอมฯ” ชี้การคุกคามนักสิ่งแวดล้อม-นักสิทธิมนุษยชนมีอยู่จริง เมื่อผสมกับเดินหน้าสร้าง 2 โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและปานาเระ จึงคือภัยอันอาจแทรกซ้อนสำคัญต่อสันติภาพ
นายตูแวดานียา ตูแวแมแง ผู้ประสานเครือข่ายประชาชนชายแดนใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ (PERMATAMAS) ได้อ่านแถลงการณ์ของเครือข่ายต่อกรณีการที่ต้องมีการเปลี่ยนสถานที่จัดเสวนา “สันติภาพจอมปลอม เมื่อรัฐคุกคามนักสิ่งแวดล้อมและนักสิทธิ” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นวันนี้ (21 มิ.ย.) ระหว่างเวลา 14.00-17.00 น. บริเวณสถานที่ที่จะใช้จัดเสวนาเดิมคือ พื้นที่ของคณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ความว่า
สืบเนื่องจากการที่เครือข่าย PERMATAMAS ได้มีการจัดเสวนาสาธารณะ “สันติภาพจอมปลอม เมื่อรัฐคุกคามนักสิ่งแวดล้อมและนักสิทธิ” ซึ่งได้กำหนดสถานที่ไว้ที่ห้อง A310 คณะวิทยาการสื่อสาร ม.อ.ปัตตานี ในวันนี้ 21 มิ.ย.2559 แต่มีแรงกดดันให้ต้องมีการเปลี่ยนสถานที่จัดการเสวนาสาธารณะนั้น ทางเครือข่ายเข้าใจดีถึงความลำบากใจของทาง ม.อ.ต่อแรงกดดันในการให้ใช้สถานที่ห้องประชุมของมหาวิทยาลัยในการจัดเสวนาในประเด็นที่ร้อนแรงเช่นนี้ ทั้งนี้ ทางเครือข่ายต้องขอขอบคุณคณะวิทยาการสื่อสาร ที่ได้ตอบรับยินดีให้ใช้ห้องประชุมของคณะในเบื้องต้น แม้ว่าในที่สุดจะไม่ได้ใช้จัดเสวนาก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เพื่อยืนยันเสรีภาพทางวิชาการไม่ให้ถูกคุกคามด้วยอำนาจสีดำ และเพื่อการสื่อสารสร้างความเข้าใจต่อสังคม พื้นที่ของมหาวิทยาลัยยังมีความสำคัญ และเป็นพื้นที่กลางที่สำคัญที่สุดของชายแดนใต้ ทางเครือข่ายจึงได้ขยับมาจัดเสวนา ณ ลานใต้ร่มไม้ของ ม.อ.ปัตตานี แห่งนี้ แม้เราจะไม่ได้ขออนุญาตในการใช้สถานที่ใต้ร่มไม้ก็ตาม ซึ่งต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้
การคุกคามนักสิ่งแวดล้อม และการคุกคามนักสิทธิมนุษยชนโดยฝ่ายความมั่นคงนั้นมีอยู่จริง ดังในหลักฐานเอกสารมากมายที่ปรากฏทางสื่อ การเสวนาครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อมุ่งโจมตีภาครัฐ แต่เพื่อให้เกิดการทำความเข้าใจประเด็น และแสวงหาทางออกที่ควรจะเป็น
ในกรณีของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และโรงไฟฟ้าถ่านหินปะนาเระนั้น เป็นภัยคุกคามสำคัญต่อวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของคนชายแดนใต้ แทนที่ทางฝ่ายความมั่นคงจะยืนตรงกลาง จัดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้นำข้อมูลมาดีเบต ถกเถียงกันอย่างเป็นวิชาการ (เพราะการไฟฟ้าฝ้ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กลัวแพ้ ไม่ยอมดีเบตด้วย) การมากดดันและคุกคามฝ่ายคัดค้านด้วยอำนาจ ไม่ใช่ด้วยเหตุด้วยผล ย่อมไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง และเป็นธรรม
ในกรณีของนักสิทธิมนุษยชนทั้ง 3 ท่าน ที่ถูกฝ่ายความมั่นคงฟ้องต่อศาลว่าด้วยการซ้อมทรมาน แทนที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีอยู่จริง ตั้งคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบ เพื่อการแก้ไขปัญหาการซ้อมทรมาน อันเป็นเงื่อนไขสำคัญมากที่ก่อให้เกิดความเคียดแค้น และนำไปสู่การเสริมพลังของฝ่ายขบวนการ แต่ฝ่ายความมั่นคงกลับมุ่งกดดันให้หยุดพูด หยุดแฉ ด้วยการฟ้องคดี ซึ่งเป็นการซุกปัญหาไว้ใต้พรม ไม่ได้ช่วยสร้างสันติภาพแต่อย่างใด
ทั้งสองกรณีคือ ภัยอันอาจแทรกซ้อนต่อการก้าวเดินสู่สันติภาพ ทางเครือข่ายไม่อยากเห็นสันติภาพที่หลายฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนมายาวนานเป็นเพียงวาทกรรมสันติภาพจอมปลอม เครือข่าย PERMATAMAS จึงขอเรียกร้องต่อฝ่ายความมั่นคง ให้หยุดการคุกคามต่อนักสิ่งแวดล้อม และนักสิทธิมนุษยชน การใช้เหตุผลแทนการใช้อำนาจเท่านั้น คือ หนทางสู่สันติภาพที่แท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันนี้ (21 มิ.ย.) สุดท้ายคณะผู้จัดเสวนาด้วยตัดสินใจใช้พื้นที่บริเวณลานใต้อาคารของคณะวิทยาการสื่อสาร (วสส.) ใน ม.อ.ปัตตานี เป็นสถานที่ล้อมวงเสวนากัน โดยวิทยากร และผู้เข้าร่วมทยอยไปร่วมวงเสวนากันอย่างคึกคัก