นครศรีธรรมราช - เทศบาลนครศรีฯ-ผู้บริหารจ่ออ่วม! หลังศาลปกครองรับฟ้องปลาตายเรือนแสนเป็นคดีสิ่งแวดล้อมแล้ว เผยเป็นคดีแรกของประเทศไทยที่ ปชช.ฟ้อง อปท.จากการบริหารที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
ความคืบหน้าในการติดตามปัญหาความเสียหายที่เกิดเกิดขึ้นต่อสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 ทุ่งท่าลาด หรือที่เรียกว่า สวนสมเด็จย่า ท่ามกลางความเสียหายอย่างหนัก ทั้งจากปลาจำนวนนับแสนตัว รวมทั้งการขุดถมพื้นที่จนเสียสภาพความร่มรื่นของต้นไม้ และสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใน ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในความดูแล และการบริหารจัดการของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
โดยวานนี้ (15 มิ.ย.) นายอัครพล หนูทวี ทนายความชาวนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยภาคประชาชนได้เข้ายื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช โดยมีผู้ถูกฟ้องคดีคือ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช นายมนัส พงศ์ยี่หล้า รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ปลัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และ ผอ.กองการช่าง รวมผู้ถูกฟ้องคดี 5 ราย ในฐานความผิดละเมิด/ละเลย จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 อย่างรุนแรง และเรียกค่าเสียหายให้ตกแก่แผ่นดิน จำนวน 5 ล้านบาท กรณีปลาจำนวนนับแสนตัวตายจากการถมดินบึงน้ำของผู้เกี่ยวข้อง และการถมกลบต้นไม้ขนาดใหญ่จนยืนต้นตายจำนวนมาก
ความคืบหน้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ศาลปกครองนครศรีธรรมราช ได้พิจารณารับคำฟ้องคดีนี้แล้ว โดยได้รับเป็นคดีในแผนกคดีสิ่งแวดล้อมของศาลปกครองนครศรีธรรมราช ขณะเดียวกัน ได้เรียกไต่สวนคู่คดีทั้งฝ่ายประชาชนผู้ฟ้องคดี และฝ่ายท้องถิ่นผู้ถูกฟ้องคดี เพื่อพิจารณาออกกำหนดคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ เนื่องจากผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยุติการดำเนินการโครงการปรังปรุงภูมิทัศน์ไว้ก่อน เนื่องจากเป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รวมทั้งปลาที่ทยอยตายไปจำนวนมาก
อีกทั้งการกลบฝังซากปลาเน่าน้ำหนักนับ 10 ตันเป็นไปอย่างไม่ถูกหลักวิชาการ อาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคลงสู่แหล่งน้ำผิวดิน แหล่งน้ำใต้ดินได้ ซึ่งผลเสียที่ตามมาจะมีความรุนแรงอย่างมาก ซึ่งศาลได้อยู่ระหว่างการเรียกคู่คดีมาไต่สวนพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้พบว่า เป็นคดีแรกของประเทศไทยที่ภาคประชาชนได้ยื่นฟ้ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีที่สร้างความเสียหาย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงจากการทำโครงการต่อศาลปกครอง ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ และกรณีศึกษาว่า ประชาชนสามารถฟ้องคดีได้หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีพฤติการณ์ไปในทางละเมิดต่อการบริหารจัดการ และความรับผิดชอบต่อประชาชน หรือหลักธรรมาภิบาล
นายอัครพล หนูทวี ทนายความผู้ฟ้องคดี ระบุว่า ดีใจ และภูมิใจในอาชีพทนายความที่สามารถฟ้องคดีนี้ให้เป็นประโยชน์กับสาธารณะได้ ในการพิจารณารับคำฟ้องของศาลปกครองเป็นคดีสิ่งแวดล้อม และยิ่งทราบว่า เป็นคดีตัวอย่าง ที่กำลังถูกให้ความสำคัญระหว่างประชาชนกับองค์กรปกครองส่วนถิ่น ทำให้มีกำลังใจในการทำงานในอาชีพทนายมากขึ้นไปอีก ยืนยันว่า จะทำคดีนี้อย่างเต็มกำลัง และจะละเอียดรอบคอบในทุกขั้นตอน
นายอัครพล ระบุด้วยว่า ชีวิตชาวเมืองนครศรีธรรมราช จำนวนไม่น้อยผูกพันอยู่กับสวนสาธารณะแห่งนี้ ครอบครัวของคนรุ่นใหม่มีจุดเริ่มต้นการพบกันของหนุ่มสาวครั้งแรกในสวนสาธารณะแห่งนี้ บึงน้ำเป็นแหล่งของการทำบุญให้อาหารปลา คนทุกข์ร้อนนำปลามาปล่อยเพื่อความสบายใจ ปลาที่ปล่อยในวาระสำคัญต่างๆ ทั้งหมดตายไปเป็นแสนตัวพร้อมกัน ความร่มรื่นของไม้ใหญ่น้อยกำลังทยอยตาย ที่เป็นที่นั่งพักผ่อน วิ่งเล่นของเด็กๆ และครอบครัว ท้องทุ่งที่เคยเป็นแหล่งชมนกน้ำอพยพตามธรรมชาติหลายร้อยไร่ ถูกขุดทำลายอย่างต่อเนื่อง ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น
เหล่านี้เป็นเหตุผลเกินพอที่จะต้องฟ้องร้องต่อศาลเพื่อดำเนินการ และในวันพรุ่งนี้ได้เตรียมข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดทางอาญาต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้ดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งหมดอีกชั้นหนึ่ง