ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาเหตุ 1 ราย ผู้ต้องหา 6 คน จับกุมได้แล้ว 2 คน อีก 4 คนอยู่ระหว่างติดตามจับกุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง พ.ต.ท.เสกสรร คมสาคร รอง ผกก.ป.สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดี “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น พาอาวุธมีดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งมีผู้กระทำความผิดร่วมกันในคดีนี้ จำนวน 6 คน โดยสามารถจับกุมได้แล้ว 2 คน คือ นายณัฐศักดิ์ หรือเบิ้ล สีหมอก อายุ 24 ปี และนายอิสระ หรือเอ บุญเทศ อายุ 25 ปี ส่วนที่เหลืออีก 4 คน อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2559 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 05.00 น. ได้ร่วมกันก่อเหตุฆ่า นายวิจิตรเทพ จอมจะบก อายุ 27 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายราชันย์ บรรลังก์สรวง อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ บริเวณหน้าร้านลันลาคาราโอเกะ ซ.ตัน ต.ป่าตอง อ.กะทู้
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายณัฐศักดิ์ หรือเบิ้ล สีหมอก อายุ 24 ปี นายอิสระ หรือเอ บุญเทศ อายุ 25 ปี และพวกอีก 4 คน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง โดยสาเหตุเกิดจากก่อนเกิดเหตุ นายราชันย์ ผู้ได้รับบาดเจ็บได้มีปากเสียงกับ นายณัฐศักดิ์ และนายอิสระ มาก่อน โดยทั้งหมดทำงานที่ร้านมนต์แคน คาราโอเกะ ต่อมา เมื่อร้านปิดบริการ นายณัฐศักดิ์ และนายอิสระ ได้พาพวกอีก 4 คนตามหาตัว นายราชันย์ เพื่อเคลียร์ปัญหา จนพบตัว นายราชันย์ ยืนอยู่กับนายวิจิตรเทพ ผู้เสียชีวิต (พนักงานเสิร์ฟร้านลันลา คาราโอเกะ) อยู่ที่หน้าร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนั้นร้านปิดบริการแล้ว นายณัฐศักดิ์ กับพวกได้ร่วมกันใช้อาวุธมีดสปาต้าฟันไปที่นายราชันย์ จนได้รับบาดเจ็บ โดยนายราชันย์ ได้วิ่งหลบหนีไปตามถนนร้องขอความช่วยเหลือ ส่วนนายวิจิตรเทพ ถูกแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ป และถูกฟันด้วยอาวุธมีด และได้วิ่งหลบเข้าไปภายในร้านลันลา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้ขับรถจักรยานยนต์ 3 คัน หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมา จากการสืบสวนทราบว่า นายณัฐศักดิ์ และนายอิสระ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปยัง จ.ตรัง และได้รับรายงานว่า นายอิสระ ประสงค์ที่จะมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง และให้การในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนายอิสระ ได้นั่งรถบัสจากในเขตพื้นที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต เมื่อนายอิสระ เดินทางถึงสถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เชิญตัวนายอิสระ มาที่ สภ.ป่าตอง นำส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วน นายณัฐศักดิ์ นั้น สืบสวนทราบว่า ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปยังจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นภูมิลำเนา และไปพักอาศัยอยู่ที่ร้านบอยบาร์เบอร์ ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของป้านายณัฐศักดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับนายณัฐศักดิ์ หลบอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวจริง และได้เดินออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวนายณัฐศักดิ์ เดินทาง กลับ สภ.ป่าตอง เมื่อได้เดินทางถึง สภ.ป่าตอง เวลาประมาณ 22.30 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ได้นำตัวนายณัฐศักดิ์ ส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งมูลเหตุการณ์ในการทะเลาะวิวาทครั้งนี้น่าจะมาจากกรณีที่นายณัฐศักดิ์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์ ได้ขอความช่วยเหลือให้นายราชันย์ ผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นเด็กเสิร์ฟภายในร้านเดียวกันให้ไปแลกเงินให้ และเกิดความไม่พอใจกันทำให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น