คนร้ายให้มีดสปาต้าฟันคอหนุ่มภูเก็ตดับคาที่หลังทะเลาะวิวาท

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - 1 ใน 4 กลุ่มคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดสปาต้าฟันคอหนุ่มบ้านดอน จ.ภูเก็ต เสียชีวิตคาที่ และเพื่อนได้บาดเจ็บอีก 1 ราย หลังจากมีปากเสียงทะเลาะกัน

เมื่อเวลา 03.30 น. วันนี้ (20 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธมีดฟันกันทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุที่บริเวณหน้าร้านปานัน คาราโอเกะ เลขที่ 222/49 ม.4 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.สุภรณ์ เมืองไข่ รอง สว. (สอบสวน) สภ.ถลาง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชานุชาญ ชลสุวัฒน์ ผกก.สภ.ถลางทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อำนวย ไกรวุฒิอนันท์ รอง ผกก.ป.สภ.ถลาง พ.ต.ท.ประสาน โตวอน สวป.สภ.ถลาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ถลาง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

ที่เกิดเหตุที่บริเวณหน้าร้านดังกล่าวใต้ต้นไม้ พบศพ นายชัยยุทธ อินษาทร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/1 ม.4 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สภาพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงยีนส์ขายาวตัวเดียว มีเลือดไหลทั่วร่างกาย ที่บริเวณลำคอถูกฟันด้วยอาวุธมีดเป็นแผลฉกจรรก์ นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณซุ้มหน้าร้าน ใกล้กันเห็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตได้ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น นายราเชนทร์ รักษาพงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 303 ม.1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงยีนส์ขายาวตัวเดียว ถูกฟันเข้าบริเวณมือด้านขวา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลถลาง และนำศพส่งโรงพยาบาลถลาง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด

จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.20 น. วันเดียวกัน กลุ่มผู้ก่อเหตุ จำนวน 4 คน ได้ขับรถกระบะสีดำ 2 ตอน ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน มาจอดที่บริเวณหน้าร้านคาราโอเกะดังกล่าว และพูดสอบถามกับพนักงานเสิร์ฟเพื่อจะเข้าไปนั่งในร้าน แต่ร้านปิดแล้วจึงมานั่งที่ซุ้มด้านหน้าร้าน และนั่งคุยกับพนักงานเสิร์ฟอยู่ประมาณ 5 นาที ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าซุ้ม และได้ทะเลาะมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากนั้นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดสปาต้าฟันผู้ตายขณะนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่ และหลังจากก่อเหตุได้พากันขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บเพื่อหาเบาะแสของกลุ่มผู้ก่อเหตุ และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของกลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อไล่ล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด